มีเหตุผลมากมายทำให้ผู้คนออกเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นหลีกหนีจากความซ้ำซากจำเจ มองหาการผจญภัย หรือเพียงแค่ได้สัมผัสสิ่งที่ไม่เคยลองมาก่อน สำหรับผู้เดินทางชาวไทยจำนวนมาก (68%) ถือว่า “การค้นพบสิ่งที่เร้าใจและน่าตื่นเต้น” เป็นแรงจูงใจส่วนบุคคลที่สำคัญอย่างหนึ่ง[1] ในขณะที่ยามค่ำคืนยาวนานขึ้นและเทศกาลฮัลโลวีนกำลังใกล้เข้ามา ผู้เดินทางบางท่านอาจรวบรวมความกล้าที่จะค้นหาประสบการณ์สุดเร้าใจด้วยการเข้าพักที่ห้องผีสิงในยามค่ำคืน

Booking.com ผู้นำระดับโลกด้านการเชื่อมโยงผู้เดินทางกับตัวเลือกที่พักน่าทึ่งจำนวนมากที่สุดได้ค้นหาข้อมูลจากรีวิวของลูกค้าที่เข้าพักจริงกว่า 159 ล้านรายการ เพื่อนำเสนอที่พักที่จะมอบประสบการณ์หลอนอย่างมีเอกลักษณ์ะ ตามที่ลูกค้าของ Booking.com ได้ระบุไว้ในรีวิว ตั้งแต่ปราสาทผีสิงสุด “คลาสสิก” ไปจนถึงโฮสเทลสุดสยองที่ปรับปรุงมาจากคุก หรือแม้แต่สปาชวนขนลุก ให้เลือกหลายระดับความหลอน

 

คืนหลอนวิญญาณบาป HI- Ottawa Jail Hostel – ออตตาวา ประเทศแคนาดา

โฮสเทลแห่งนี้เคยเป็นคุกที่รู้จักกันในนาม Nicholas Street Gaol หรือ คุกออตตาวา ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงออตตาวา และแม้ว่าห้องพักบางห้องจะผ่านการปรับเปลี่ยนให้ได้มาตรฐานที่พักแสนสะดวกสบายในยุคใหม่ แต่โฮสเทลแห่งนี้ก็ยังมีประตูไม้สมัยที่เป็นคุกและหน้าต่างทุกบานก็ยังมีลูกกรงอยู่

ยิ่งไปกว่านั้นผู้คนยังว่ากันว่าที่พักแห่งนี้ยังมีสิ่งที่เหล่านักโทษในเรือนจำได้เหลือทิ้งเอาไว้ ทั้งเสียงกรีดร้องอันน่าขนลุกและเสียงลึกลับไม่รู้ที่มาที่มักเกิดขึ้นอยู่เสมอ ส่วนดวงวิญญาณที่มาปรากฏให้เห็นกันบ่อย ๆ ที่นี่ก็คือ Patrick J. Whelan ช่างตัดเสื้อชาวไอริชที่ถูกประหารชีวิตที่นี่ด้วยข้อหาฆาตกรรมนักการเมืองท้องถิ่น ที่พักแห่งนี้เปิดให้นอนด้วยกันในห้องพักรวมได้ แต่ก็ไม่รับประกันนะว่าจะมีใคร (หรืออะไร) ที่ไม่ได้รับเชิญโผล่มาพักในห้องด้วยหรือเปล่า…

“การเข้าพักที่นี่เป็นประสบการณ์แปลกใหม่สุด ๆ แต่ก็ระวังผีเอาไว้ให้ดีล่ะ !” — คุณ Marion จากฝรั่งเศส

ฉันป่วยและตายที่นี่ 1886 Crescent Hotel and Spa – ยูเรกาสปริงส์ รัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา

เดิม Crescent Hotel นั้นเปิดตัวในฐานะรีสอร์ทสุดหรูในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะเสื่อมโทรมลงและกลายมาเป็นวิทยาลัยและโรงเรียนดนตรีสำหรับสตรี และหลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาลและคลินิกสุขภาพที่ดำเนินกิจการโดย Norman Baker ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้จบการศึกษาด้านการแพทย์มาแต่อย่างใด

ทุกวันนี้ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ไม่น่าพิศมัยนี้ได้ถ่ายทอดผ่าน “ผู้อยู่อาศัยถาวร” มากหน้าหลายตาของที่นี่ ซึ่งในบรรดาผู้อยู่อาศัยเหล่านี้นั้นก็มีทั้งช่างหินที่เสียชีวิตระหว่างก่อสร้างโรงแรม ผู้ป่วยโรคมะเร็งจาก โรงพยาบาลหมอ Baker และวิญญาณแมวที่อาศัยอยู่ที่นี่ ลองถือโอกาสมาพบผู้อยู่อาศัยเหล่านี้ดูระหว่างร่วมทัวร์สัมผัสวิญญาณในโรงแรม ซึ่งรวมถึงการแวะไปที่ห้องดับจิตชวนขนหัวลุกของโรงแรมด้วย แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศสบายๆ กว่านี้ ทางโรงแรมก็มีสปาให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายหลังจากที่ขวัญหายไปก่อนหน้านี้

“โรงแรมนี้มีผีสิง! BOOKING.กุ๊กกุ๊กกู๋ !!!” — คุณ Joan จากสหรัฐอเมริกา

ปล่อยฉันออกไป Q Station – ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

สมัยก่อนผู้อพยพรายใหม่ที่เดินทางมาออสเตรเลียและต้องสงสัยว่าเป็นพาหะนำโรคจะถูกกักตัวไว้ ที่ North Head Quarantine Station เป็นเวลา 40 วัน และเป็นเช่นนี้เรื่อยมาจนที่นี่ปิดตัวลงในปี 1972 ฉะนั้นที่นี่จึงเป็นที่พักพิงสุดท้ายของผู้ป่วยโรคติดต่อต่างๆ อย่างไข้ทรพิษ อหิวาตกโรค และกาฬโรคกว่า 500 คนที่โดนบีบบังคับให้เข้ามาอยู่ที่นี่

ปัจจุบันแม้จะถูกเปลี่ยนมาเป็นศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวและที่พักเก่าแก่แล้ว แต่ก็ยังเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นจุดที่เฮี้ยนที่สุดในออสเตรเลีย และยังเคยออกรายการทีวีและใช้เป็นฉากภาพยนตร์สยองขวัญอีกด้วย สำหรับที่นี่ นอกจากกิจกรรมทัวร์ลองของเพื่อสัมผัสเรื่องราวชวนขนลุกในสมัยก่อนแล้ว Q Station ก็ยังมีทัวร์ด้านประวัติศาสตร์ที่ให้ความรู้เต็มเปี่ยม รวมถึงกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการพายเรือคายัคและดำน้ำสน็อกเกิ้ลอีกด้วย

“เจอตัวอิคิดนา แบนดิคูท และผีอีกเพียบ !” — คุณ Kathleen จากออสเตรเลีย

มาเล่นกันเถอะ Island of Dolls – Mexico City, Mexico

เม็กซิโก ซิตี้ เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดในโลก ที่พร้อมมอบประสบการณ์หลากหลายให้แก่ผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ Chapultepec หรือย่าน Polanco สุดชิค ไปจนถึงเมืองสไตล์โบฮีเมียนอันเป็นศูนย์กลางด้านประวัติศาสตร์อย่าง Coyoacán และหนึ่งในประสบการณ์ที่นักเดินทางจิตแข็งผู้ชื่นชอบความตื่นเต้นและตำนานลึกลับชื่นชอบ คือเกาะอันลึกลับอย่าง Island of Dolls หรือ Isla de las Munecas ทางตอนใต้ของเมือง ซึ่งนักเดินทางจะได้พบเห็นตุ๊กตามากมายห้อยอยู่ตามต้นไม้ ที่มาของตุ๊กตาเหล่านี้เกิดจากชายที่ชื่อ ดอน จูเลียน ซานตานา ที่ทิ้งลูกเมียมาเริ่มต้นชีวิตที่เกาะแห่งนี้และเค้าเชื่อว่าในคลองมีเด็กผู้หญิงจมน้ำตายอยู่ จึงพยายามค้นหาศพของเธอขึ้นมาทำพิธี จนกระทั่งวันหนึ่งกลางฤดูแล้งเขาได้พบตุ๊กตาเด็กที่ก้นคลอง หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มต้นเก็บตุ๊กตาจากที่ต่างๆ ในเกาะมาแขวนที่หน้าบ้านและต้นไม้ ต่อมาเขาก็จมน้ำตายอย่างปริศนาที่คลองในบริเวณที่เขาเชื่อว่ามีเด็กจมน้ำอยู่นั้นเอง

สำหรับที่พักในเม็กซิโก ซิตี้ที่สามารถเดินทางไปเยือนเกาะนี้ได้ คือ Casa Jacinta Guest House ที่อยู่ใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์บ้านฟรีดา คาโล ที่ตกแต่งตามสไตล์ดั้งเดิม พร้อมระเบียงสวยให้บรรยากาศผ่อนคลาย

 

แม้แต่ความตายก็พรากเราจากกันไม่ได้ Hotel Paris – ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี

ในเมืองสุดโรแมนติกอย่างฟลอเรนซ์นี้ ไม่น่าแปลกใจที่ตำนานวิญญาณหลอนชื่อดังที่สุดเรื่องหนึ่งก็ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก โดยเป็นเรื่องราวของ Bianca Capello สุภาพสตรีสูงศักดิ์ชาวเวนิสที่มีชื่อเสียงเลื่องลือจากรูปโฉมที่งดงาม ซึ่งได้แอบแต่งงานอย่างลับๆ กับ Francesco I de’ Medici แกรนด์ดยุกแห่งทัสกานีหลังจากที่คบหาดูใจกันมาอย่างยาวนาน ทว่าในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1587 คู่รักคู่นี้ก็เสียชีวิตลงอย่างปริศนา ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าถูกวางยาพิษ

Hotel Paris แห่งนี้เป็นอดีตวังที่เป็นจุดนัดพบของคู่รักฝืนจารีตคู่นี้ ในปัจจุบันหลังจากที่ได้กลายมาเป็นโรงแรมบูติกแล้ว ผู้คนยังกล่าวกันว่าดวงวิญญาณของ Bianca Capello ยังคงล่องลอยอยู่ตามห้องโถงต่าง ๆ ของที่นี่ คอยมองหาแกรนด์ดยุกผู้เป็นสามี

“ห้องใหญ่โตกว้างขวาง และพวกเด็ก ๆ ก็ตื่นเต้นที่ได้อ่าน เรื่องผีที่โรงแรมบอกว่าวนเวียนอยู่ที่นี่” – คุณ Xenia จากอิตาลี