ร้านอาหารรางวัล 1 ดาวมิชลิน แห่งแรกและแห่งเดียวในภูเก็ต นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดียิ่งขึ้นภายใต้ปรัชญาใหม่ พร้อมปรับโฉมร้านและขยายเวลาให้บริการ
ร้านอาหาร “พรุ” (PRU) ในเครือมนทาระ ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลิน แห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดภูเก็ต จากงานประกาศรางวัลมิชลินไกด์ ประจำประเทศไทย ปี 2562 ขยายเวลาให้บริการพร้อมด้วยรูปโฉมใหม่ ซึ่งเป็นการปรับปรุงใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ร้านได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2559 และเปิดโอกาสให้ได้แสดงถึงอัตลักษณ์ของร้านอาหาร PRU ผ่านอาหารและ ดีไซน์ใหม่ของร้าน เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น
สำหรับพื้นที่ที่ได้ออกแบบและตกแต่งใหม่ประกอบด้วย ห้องรับประทานอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งแยกออกเป็น 2 ส่วน เพื่อมอบประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟและเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับวิสัยทัศน์ใหม่ในการให้บริการ โดยภายในร้านได้มีการตกแต่งใหม่และเลือกใช้วัสดุที่มาจากท้องถิ่นเพื่อช่วยรังสรรค์บรรยากาศที่หรูหราและสง่างามยิ่งขึ้น

เชฟจิม โอฟอสต์ เชฟชาวเนเธอร์แลนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีจากสไตล์การทำอาหารที่ผสมผสานจินตนาการและเทคนิคใหม่ๆ เข้าด้วยกัน กล่าวว่า “ความท้าทายของเราคือการสร้างบรรยากาศร่วมสมัยที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านอาหารและการบริการของเรา ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งเรื่องราวแห่งความทรงจำและเสน่ห์แบบดั้งเดิมของร้าน”
นอกจากการปรับโฉมใหม่ภายในห้องอาหารแล้ว ในส่วนของครัวเองก็ได้มีการขยายพื้นการใช้สอยด้วยเช่นกัน โดย เชฟจิม โอฟอสต์ ได้กล่าวถึงว่า “เพื่อสนับสนุนปรัชญา “ปลูก-ดูแล-เข้าใจ” ของร้านอาหาร “PRU” ดังนั้น เราจึงต้องการจัดพื้นที่ห้องครัวของเราใหม่ด้วย เพื่อช่วยให้สร้างความคิดสร้างสรรค์และมีความอิสระผ่านเมนูต่าง ๆ ที่เรารังสรรค์ขึ้นได้ดียิ่งขึ้น”
ไม่เพียงเท่านี้ ทีมงานยังได้ปรับปรุงแนวคิดการทำอาหารของร้าน “PRU” ด้วยการนำปรัชญาแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ “ระบบนิเวศ” หรือ “Ecosystem based” มาใช้
“เราเชื่อว่าหนึ่งในความต้องการของลูกค้าคือการได้ฟังเรื่องราวที่จะพาพวกเขาไปสู่สถานที่ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้รังสรรค์เมนูใหม่ๆ เพื่อช่วยบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจของสถานที่ต่าง ๆ เช่น เมนูที่ทำจากกุ้งแม่น้ำจากแม่น้ำตาปี จ. สุราษฎร์ธานี เสิร์ฟพร้อมวัตถุดิบสดใหม่ที่มาจากระบบนิเวศเดียวกัน เช่น ซอสที่ทำจากปลา รวมทั้งผักและพืชชนิดอื่นๆ ที่พบในแม่น้ำสายเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือเมนูอาหารที่กลายเป็นศูนย์รวมที่สมบูรณ์แบบของระบบนิเวศที่น่าอัศจรรย์นั้น” เชฟจิม โอฟอสต์ กล่าวเสริม
เพื่อนำเสนอปรัชญาใหม่นี้ ร้านอาหาร “พรุ” ได้เปิดตัวเมนูซิกเนเจอร์แบบ 8 คอร์ส เพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย นอกจากนี้ทางร้านยังได้นำอาหารจานยอดนิยมจากเมนูเดิมมารวมไว้ในเซตเมนูแบบ 6 คอร์สที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ด้วย
“แม้ว่าแนวทางใหม่นี้จะทำให้การจัดหาวัตถุดิบยากยิ่งขึ้น แต่เรารู้สึกว่ามันสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเรามากกว่าเดิม รวมทั้งยังช่วยให้เราได้ทำงานใกล้ชิดกับชุมชนท้องถิ่นมากขึ้น”
นอกจากนี้ทีมงานที่ดูแลด้านอาหารยังได้ลงทุนในการพัฒนา “ฟาร์มพรุจำปา” ซึ่งเป็นฟาร์มของร้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้ปลูกพืช สมุนไพร ผัก และผลไม้ กว่า 50 ชนิด

“เราตื่นเต้นมากที่ได้เห็นฟาร์มของเราเติบโตและได้พัฒนาขึ้น ในช่วงแรกๆ เราปลูกได้แค่มะเขือเทศอย่างเดียว ต่อมาเราได้แทนที่วลี “มะเขือเทศจากฟาร์มของเรา” ภายในเมนูที่เราใช้มาอย่างยาวนาน ด้วย “อามูสบูช” (Amuse Bouch) หรืออาหารเรียกน้ำย่อยที่ทำจากส่วนผสม 14 ชนิดที่ปลูกในฟาร์มของเราเองทั้งหมด ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเราเติบโตขึ้นมากแค่ไหน ทั้งในและนอกห้องครัว” เชฟจิม โอฟอสต์ กล่าวสรุป
นอกจากนี้ร้านอาหาร “พรุ” ยังได้ขยายเวลาทำการ โดยให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์
สอบถามและเยี่ยมชม ร้านอาหาร พรุ” (PRU) ได้ที่ www.prurestaurant.com หรือ อีเมล์ prureservations@trisara.com