ใครจะไปเที่ยวสวีทหวานแหววกันแค่ไหน คนโสดสายสตรองอย่างเราก็ไม่หวั่น เพราะเราเองก็เที่ยวคนเดียวได้ แถมมีเวลาได้ทำอะไรตามใจชอบอย่างเต็มที่ ถ้าคุณอยากไปเที่ยวคนเดียว แต่ยังไม่มีเวลาหาข้อมูลที่เที่ยวหรือที่พักละก็ อโกด้า (http://www.agoda.com/?site_id=1811392) หนึ่งในผู้ให้บริการการจองห้องพักออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก รวบรวมไอเดียท่องเที่ยวพร้อมที่พักแบบคูล ๆ มาไว้ให้แล้ว
เพลิดเพลินไปกับของอร่อยที่โอซาก้า
หากคุณเป็นสายกิน คุณจะพบว่าอีกหนึ่งข้อดีของการไปเที่ยวคนเดียว คือการได้กินของที่อยากกินเมื่อไรก็ได้ ลองไปพิสูจน์ชื่อเสียงของอาหารอร่อยที่ย่านชินเซไกในโอซาก้า ไม่ไกลจากหอคอยสึเทนคาคุดู ย่านนี้ขึ้นชื่อว่ามีอาหารญี่ปุ่นตำรับโอซาก้าแท้ๆ มากมาย รสชาติสุดแสนอร่อย บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยร้านอาหารทั้งประเภทตั้งถาวรและรถเข็นซึ่งจะจัดเตรียมอาหารสด ๆ พร้อมเสิร์ฟให้อร่อยได้แบบทันใจตรงนั้นเลย นี่จึงเป็นอีกย่านที่น่าไปเดินชิมอาหารจานเด็ดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) โอนิกิริหมู (ข้าวปั้นห่อด้วยเนื้อหมูย่าง) รวมไปถึงเมนูยอดนิยมอย่างซูชิและซาชิมิ
เดินมาทางหอคอยสึเทนคาคุจากย่านอาหารอร่อยเพียงไม่กี่นาที ก็จะเจอกับ Vertex Osaka Hotel (https://www.agoda.com/hotel-vertex-osaka_5/hotel/osaka-jp.html?site=id1811392) โรงแรมนี้มีห้องพักสะดวกสบาย พร้อมเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความชื้น และฟรี WiFi
ตื่นตาไปกับการแสดงแสงสีเสียงที่สิงคโปร์
ใครที่ชอบการแสดงแสงสี หรืออยากหามุมถ่ายภาพวงกลมโบเก้แบบเก๋ ๆ ต้องไม่พลาดเทศกาล ‘i Light Singapore – Bicentennial Edition’ หรือเทศกาลแสดงแสงสีเสียงประจำปีเพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ซึ่งมีศิลปินจาก 15 ประเทศมาสร้างสรรค์หลากหลายผลงานศิลปะของตนขึ้นทั่วบริเวณเกาะ เช่น การแสดงแสงแบบคาไลโดสโคป การแสดงเทคนิคการฉายแสงไปบนอาคารพร้อมเปิดดนตรีประกอบ การแสดงเทคนิคฮอโลกราฟิก และศิลปะแบบอินเทอร์แอคทีฟ ใดยในปีนี้งานจะจัดไปจนถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2019
ในย่านที่จัดงานจะมีที่พักสุดหรูอย่าง Marina Bay Sands (https://www.agoda.com/marina-bay-sands/hotel/singapore-sg.html?site=id1811392) ที่นี่มีห้องกว้างตกแต่งอย่างมีสไตล์ พร้อมร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งบันเทิงชั้นดีอยู่ใกล้กัน
ช้อปกระจายที่กรุงเทพฯ มหานครแห่งการช้อปปิ้ง
เป็นที่รู้กันว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีแหล่งช้อปปิ้งมากมายหลายประเภท จะไปช้อปปิ้งซื้อของให้ตัวเองแบบไม่ต้องเดินรอใครหรือซื้อให้ใครก็สะดวก ยิ่งถ้าหากคุณเป็นแฟนของวินเทจตัวยงแล้วล่ะก็ ต้องไปเดินช้อปที่ตลาดรถไฟศรีนครินทร์ ตลาดกลางคืนแห่งนี้มีของสไตล์ย้อนยุคมากมายให้เดินดู ไล่ไปตั้งแต่รถ Cadillac สภาพดี ไปจนถึงโคมไฟระย้าสไตล์ฝรั่งเศสจากช่วงทศวรรษ 1900 แถมยังมีร้านอาหาร บาร์ และร้านรถเข็นอีกเพียบให้ได้แวะเติมพลัง ก่อนมุ่งหน้าไปตามหาฮอตไอเทมอย่างเสื้อแจ็คเก็ต ที่มีกลิ่นอายวินเทจสุด ๆ
ไม่ไกลจากตลาดนัดรถไฟ มีโรงแรม Olive Bangkok Hotel (https://www.agoda.com/olive-bangkok-hotel/hotel/bangkok-th.html?site=id1811392) ที่มีห้องพักสะอาดสไตล์โมเดิร์นไว้คอยให้บริการ รวมไปถึงร้านกาแฟให้ไปนั่งพักหลังจากเดินช้อปปิ้ง
ผ่อนคลายกายและใจ พร้อมให้เวลากับตัวเองที่เชียงใหม่
ศูนย์วิปัสสนา นานาชาติ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นที่ที่คุณจะได้ฝึกจิตฝึกสมาธิบนยอดเขาอันสวยงามท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง ศูนย์วิปัสสนาแห่งนี้นำคำสอนของพระอาจารย์มหาสี สยาดอว์ มาปรับใช้เป็นหลักสูตร โดยเน้นที่การฝึกภาวนาสติปัฏฐาน 4 ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นซึ่งใช้เวลาสามถึงสี่วัน ไปจนถึงระดับสูงซึ่งใช้เวลาประมาณสามสัปดาห์ โดยการฝึกจะเริ่มต้นตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยการสวดภาวนา ตามด้วยกิจกรรมสนทนาธรรม ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายไปพบกับพระอาจารย์ ผู้ที่จะให้คำแนะนำสำหรับการวิปัสสนาที่เหมาะกับแต่ละคน การเข้าร่วมฝึกนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ทางวัดจะรับเป็นเงินบริจาคแทน
หลังจากฝึกสมาธิแล้ว ลองแวะไปนอนพักที่ The Velvet Orchid (https://www.agoda.com/the-velvet-orchid/hotel/chiang-mai-th.html?site=id1811392) โรงแรมสไตล์ล้านนาโคโลเนียล ที่อยู่ห่างออกไปจากศูนย์วิปัสสนาประมาณ 30 นาที ตั้งอยู่ใกล้กับวัดโบราณในตัวเมืองเชียงใหม่ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมอย่าง วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร