กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าสร้างการมีส่วนร่วมให้ผู้ประกอบการเกิดความตระหนัก ถึงผลกระทบจากปัญหาคุณภาพน้ำในคลองแสนแสบ และช่วยกันฟื้นฟูคลองแสนแสบให้กลับมาใสสะอาด ตามนโยบายของรัฐบาล
พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า คลองแสนแสบกำลังเผชิญกับปัญหาน้ำเน่าเสีย ซึ่งสาเหตุของปัญหาไม่ได้มาจากชุมชน โรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานประกอบการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มาจากหลายปัจจัย เพราะฉะนั้นวิธีการแก้ปัญหาจึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบกับแผนปฏิบัติการเพื่อให้คลองแสนแสบสะอาดภายใน ๒ ปี ให้กระทรวงคมนาคม บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการพัฒนา ปรับปรุง และแก้ไขปัญหาน้ำในคลองแสนแสบ และบริเวณโดยรอบ ให้เป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่สะอาดและปลอดภัย มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำของกรุงเทพมหานคร เป็นประโยชน์ต่อชุมชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้แผนปฏิบัติการดังกล่าว ทส. ได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียของคลองแสนแสบและคลองสาขา ดังนี้ ๑. ดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดน้ำเสียอย่างเข้มงวด โดยกรมควบคุมมลพิษ และจากจำนวนผู้ประกอบการที่มีการระบายน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดสูงถึงร้อยละ ๗๐ ๒. จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดเก็บรายได้เพื่อการจัดการน้ำเสียในรูปแบบการจัดเก็บค่าอนุรักษ์คุณภาพน้ำรวมกับน้ำประปา เพื่อนำเงินรายได้มาใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียรวมชุมชน ฟื้นฟูแหล่งน้ำที่ประสบปัญหามลพิษทางน้ำดังเช่น คลองแสนแสบ และ ๓. ดำเนินการปลูกฝังจิตสำนึกให้กับชุมชน ผู้ใช้คลองเพื่อการสัญจร นักท่องเที่ยว และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากคลองให้มีความร่วมมือในการดูแลรักษาคลอง
พลเอกสุรศักดิ์ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะสามารถบรรลุผลตามเป้าหมายได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งผลที่ได้ไม่เพียงแต่จะส่งผลดีกับเรื่องปัญหามลพิษทางน้ำ ที่จะบรรเทาความรุนแรงลง สภาพสิ่งแวดล้อมดีขึ้น แต่ยังส่งผลต่อเนื่องถึงภาคส่วนอื่นๆ ด้วย ทั้งภาคการท่องเที่ยว การคมนาคมและขนส่ง ภาคเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และท้ายที่สุดส่งผลกับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้น ดังนั้น จึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการต่างๆ ภาครัฐ ภาคประชาชนทั่วไป รวมถึงสื่อมวลชน ร่วมกันขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ ?คืนน้ำใส…ให้คลองแสนแสบ? เพื่อให้คลองแสนแสบกลับมามีชีวิตและใสสะอาดขึ้นอีกครั้ง