เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ไบรอัน เชสกี้ และโจ เกบเบีย สองผู้ร่วมก่อตั้งแอร์บี-แอนด์บี ช่วยกันสูบลมเตียงเป่าลม 3 หลัง ในอพาร์ทเมนท์ของพวกเขาที่ซานฟรานซิสโก นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ระดับโลกในธุรกิจการท่องเที่ยว ปัจจุบันแอร์บีแอนด์บีเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่พักที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนที่พักที่มากถึง 4.5 ล้านแห่งใน 81,000 เมือง ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เจ้าของที่พักของแอร์บีแอนด์บีมีรายได้มากกว่า 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,291,500 ล้านล้านบาท (31.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) และแขกผู้เข้าพักได้เช็คอินเข้าพักกับแอร์บีแอนด์บีมากกว่า 300 ล้านครั้ง
แอร์บีแอนด์บี มองไกลสู่ในอีก 10 ปี ข้างหน้าและมุ่งสานต่อความสำเร็จของชุมชนผู้ให้บริการที่พัก (host community) ด้วยการเปิดตัว ‘โรดแมพ’ สำหรับบ้านพักซึ่งเป็นธุรกิจหลักของแอร์บีแอนด์บี ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายทอดประสบการณ์แบบท้องถิ่น มีเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นอย่างแท้จริงให้แก่เหล่านักเดินทางทุกรูปแบบ โรดแมพดังกล่าวประกอบด้วย ที่พัก 4 ประเภทใหม่ – เวเคชั่น โฮม (Vacation Home) ยูนิค (Unique) บีแอนด์บี (B&B) และบูทีค (Boutiques) เพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิมคือ บ้านทั้งหลัง หรือ Entire Home ห้องเดี่ยวแบบส่วนตัว หรือ Private Room และแบบแบ่งปัน หรือ Shared Space บ้านพักที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกรูปแบบโอกาส การลงทุนเพื่อคืนประโยชน์สู่ชุมชนที่พัก ด้วยโปรแกรม ‘ซูเปอร์โฮสต์’ ที่ปรับปรุงใหม่ และโปรแกรมสมาชิกสำหรับผู้เข้าพักใหม่ ที่จะเปิดตัวภายในปีนี้
ไบรอัน เชสกี้ ผู้ร่วมก่อตั้งแอร์บีแอนด์บี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าฝ่ายชุมชนแอร์บีแอนด์บี กล่าวว่า “เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยคาดฝันว่าแอร์บีแอนด์บีจะเติบโตมากเพียงใด ยิ่งไปกว่านั้นผู้คนเคยคิดว่าการให้คนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในบ้านเป็นแนวคิดที่บ้ามาก แต่ปัจจุบัน ผู้คนหลายล้านคนเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ กระนั้นเราต้องการพัฒนาไปไกลกว่านี้ด้วยการให้การสนับสนุนและขยายชุมชนของเราให้กว้างออกไป ดังนั้นในอีก 10 ปีข้างหน้า ผู้คนมากกว่า 1 พันล้านคนต่อปีจะได้สัมผัสความประทับใจนานับประการ ของการเดินทางสุดมหัศจรรย์ไปกับแอร์บีแอนด์บี”
ผู้ให้บริการที่พักแอร์บีแอนด์บี มีอยู่อย่างมากมายและหลากหลายด้วยจำนวนที่พักมากกว่า 4.5 ล้านแห่งทั่วโลก และตลอดหลายปีที่ผ่านมาประเภทที่พักบนแพลตฟอร์มแอร์บีแอนด์บี ก็มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้นตามไปเช่นกัน ตั้งแต่บ้านต้นไม้ไปจนถึงโรงแรมบูทีค แต่ผู้ใช้บริการสามารถค้นหาได้เพียง 3 ประเภทหลัก คือ ห้องแบบแบ่งปันหรือแชร์สเปซ ห้องเดี่ยวส่วนตัว และบ้านทั้งหลัง ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าของที่พักที่จะสร้างความโดดเด่นให้กับที่พักของตน และแขกผู้เข้าพักก็ไม่สามารถมองหาสิ่งที่พวกเขาต้องการได้เสมอไป
เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว แอร์บีแอนด์บี จึงจะเพิ่มที่พักอีก 4 ประเภทใหม่ ไว้ในแพลตฟอร์ม ได้แก่ เวเคชั่น โฮม, ยูนิค สเปซ, บีแอนด์บี และบูทีค ซึ่งช่วยเพิ่มทางเลือกของที่พักที่เหมาะสมมากขึ้นสำหรับผู้เข้าพัก และเพิ่มความโปรงใส่ในการจัดประเภทที่พักอาศัย พร้อมกับช่วยให้เจ้าของที่พักสามารถแสดงความโดดเด่นของที่พัก เพื่อสอดคล้องกับความต้องการแบบเฉพาะเจาะจงของผู้เข้าพักมากขึ้น นับจากวันนี้ แอร์บีแอนด์บี จะสร้างเครื่องมือสำหรับเจ้าของที่พักที่สามารถแบ่งประเภทที่พักได้อย่างหลากหลายในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ไม่เพียงช่วยให้สามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับที่พักทั้งหมดภายใต้ที่พัก 7 ประเภทนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการค้นหาขั้นสูง ซึ่งทำให้นักเดินทางสามารถค้นหาเจ้าของที่พัก และบ้านพักที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา ที่พักทั้ง 7 ประเภท จะเริ่มให้ผู้เข้าพักได้ใช้งานในช่วงฤดูร้อนนี้
แอร์บีแอนด์บี ริเริ่มธุรกิจนี้เพื่อรองรับนักเดินทางคนเดียวเป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนหลายล้านคนพบว่าแพลตฟอร์มนี้ยังเหมาะสำหรับการเดินทางหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางกับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง และห้องครัวสำหรับทำอาหาร ไปจนถึงนักผจญภัยที่มองหาที่พักที่แตกต่าง เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักเดินทาง แอร์บีแอนด์บีทำการเปิดตัว ‘คอลเลกชัน’ บ้านพักที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกรูปแบบโอกาส โดยเริ่มจาก แอร์บีแอนด์บี ฟอร์ แฟมิลี่ และแอร์บีแอนด์บี ฟอร์ เวิร์ก ที่เปิดตัวในวันนี้ และยังมีคอลเลกชันที่พักสำหรับทั้งสังสรรค์ แต่งงาน ฮันนีมูน เที่ยวแบบกลุ่ม และปาร์ตี้อาหารเย็น ซึ่งจะเปิดตัวภายในปีนี้
เพื่อขยายขอบเขตเพิ่มการดึงดูดผู้เข้าพักมาใช้บริการแพลตฟอร์มแอร์บีแอนด์บีให้มากขึ้น และให้ความสำคัญกับเจ้าของที่พักที่มอบการบริการต้อนรับแขกผู้มาพักที่เหนือกว่าได้อย่างโดดเด่น แอร์บีแอนด์บี เปิดตัวเทียร์ของคุณภาพที่พักใหม่ ซึ่งได้รับการตรวจสอบแบบละเอียดตามแบบฉบับแอร์บีแอนด์บีทั้งในคุณภาพและความสะดวกสบาย เริ่มต้นจากบ้านพัก 2,000 แห่งใน 13 ประเทศที่พร้อมสำหรับการจับจองแล้ว แอร์บีแอนด์บี พลัส มุ่งตอบสนองผู้เข้าพักที่มองหาบ้านที่มีความสวยงาม เจ้าของที่พักที่ยอดเยี่ยมและความอบอุ่นสบายใจที่สูงขึ้นไปอีกระดับ บ้านพักแอร์บีแอนด์บี พลัส ผ่านการตรวจสอบ รับรองด้วยการตรวจสอบมากกว่า 100 รายการที่ครอบคลุมความสะอาด ความสะดวกสบาย และการออกแบบ จากการดำเนินโครงการนำร่องพบว่า บ้านพักที่ได้รับรองนั้นได้รับการสอบถามและจับจองมากกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับ ที่พักทั่วไป ขณะที่ผู้เข้าพักร้อยละ73 ระบุว่าพวกเขายอมจ่ายมากกว่าเพื่อบ้านพักที่ได้รับการรับรอง เจ้าของที่พัก
แอร์บีแอนด์บี พลัส ยังจะได้รับประโยชน์จากการเป็นที่พักระดับทอป ที่เรียกว่า อิน-โฮม เซอวิสเซส (in-home services) คือบริการสนับสนุนต่างๆ เกี่ยวกับที่พัก เช่น ให้คำปรึกษาในเกี่ยวกับการตกแต่งภายในที่พัก ภาพถ่ายที่พักแบบมืออาชีพ และบริการสนับสนุนเกี่ยวกับบ้านพักแบบพรีเมียม
หลังจากเข้าซื้อกิจการ ‘ลักซ์ชัวรี รีทรีตส์’ เมื่อปีที่แล้ว แอร์บีแอนด์บีนำเสนอมาตรฐานใหม่ของการเดินทาง ที่เรียกว่า บียอนด์ บาย แอร์บีแอนด์บี (Beyond by Airbnb) ซึ่งจะเปิดตัวช่วงก่อนกลางปีนี้ บียอนด์ บาย แอร์บีแอนด์บี เป็นการผสมผสานบ้านพักที่โดดเด่นเข้ากับประสบการณ์ที่หาได้ยากแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และการบริการระดับไฮเอนด์ ทุกคุณสมบัติรวมเข้าไว้ด้วยกันโดย ‘นักออกแบบการเดินทาง’ ผู้เชี่ยวชาญที่จะสร้างสรรค์ที่สุดแห่งประสบการณ์การเดินทางทั้งหมดตามใจต้องการ
เจ้าของที่พักและผู้เข้าพักคือหัวใจสำคัญของแอร์บีแอนด์บี ด้วยโปรแกรม ‘ซูเปอร์โฮสต์’ ปัจจุบันรวบรวมเจ้าของที่พักได้ถึง 400,000 รายทั่วโลก แอร์บีแอนด์บี มุ่งยกย่องชมเชยที่พักที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ โปรแกรมซูเปอร์โฮสต์ ยังเปิดตัวเปิดตัว 14 ประโยชน์ที่ซูเปอร์โฮสต์จะได้รับเพิ่มเติม ที่รวมถึงการสร้างการเปิดรับของผู้บริโภค (Exposure) ให้ดียิ่งขึ้น url เฉพาะของที่พัก สิทธิประโยชน์สุดพิเศษ เช่น ส่วนลดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สมาร์ท โฮม โปรดักส์ เชิญเยี่ยมชม airbnb.com/superhost เพื่อดูรายละเอียดสิทธิประโยชน์ทั้งหมด
ภายในปีนี้ แอร์บีแอนด์บีมีแผนจะเปิดตัว ‘ซูเปอร์เกสต์’ โปรแกรมสมาชิกการเดินทางที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งครอบคลุมทุกรูปแบบการเดินทาง แอร์บีแอนด์บี จะเปิดตัวซูเปอร์เกสต์ 10,000 คนแรกในช่วงหน้าร้อนนี้ ก่อนที่จะทยอยมอบตราซูเปอร์เกสต์ให้กับชุมชนผู้เข้าพักแอร์บีแอนด์บีในวงกว้างมากขึ้น ภายในช่วงสิ้นปีนี้
การประกาศในวันนี้ ขับเคลื่อนจากความมุ่งมั่น ที่แอร์บีแอนด์บีจะเป็นบริษัทแห่งศตวรรษที่21 ที่มีการดำเนินงานเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าของที่พัก ผู้เข้าพัก และชุมชน ช่วยให้เจ้าของที่พักประสบความสำเร็จมากขึ้น มอบสิ่งที่ดีให้แก่ผู้เข้าพักที่มีจำนวนมากขึ้น และสนับสนุนธุรกิจขนาดย่อมในชุมชนอย่างที่พักขนาดเล็ก แบบเบดแอนด์เบรกฟาสต์ และโรงแรมบูทีคท้องถิ่นที่ให้บริการด้วยใจอย่างแท้จริง รวมถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า แอร์บีแอนด์บี จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งสู่ชุมชน
เจ้าของที่พักแอร์บีแอนด์บีในประเทศไทยมีรายได้รวมกันทั้งหมด 4 พันล้านบาท ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ 2560 ถึง กุมภาพันธ์ 2561) พวกเขาให้การต้อนรับผู้เข้าพักประมาณ 1.2 ล้านคนในปี พ.ศ. 2560 ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ66 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปัจจุบันมีที่พักกว่า 61,400 แห่ง ที่ลงทะเบียนกับแอร์บีแอนด์บีในประเทศไทย และที่พักมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 67,000 บาท ต่อปี
โดยสัดส่วนที่โดดเด่นนั้นอยู่ที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯและภูเก็ตซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยม(hotspots) เฉพาะในปีที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ 2560 ถึง กุมภาพันธ์ 2561) 2 พื้นที่นี้ สร้างสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่ง ทั้งในส่วนรายได้ของเจ้าของที่พักและปริมาณแขกที่เข้าพัก ที่พักของแอร์บีแอนด์บีในกรุงเทพฯ มีรายได้รวมทั้งหมด 1.1 พันล้านบาท ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับผู้เข้าพักทั้งหมด 485,000 คน ขณะที่ในภูเก็ต พื้นที่เพื่อการพักผ่อนที่มีความแข็งแกร่งนี้ สร้างรายได้เกือบ 995 ล้านบาทให้แก่จ้าของที่พัก โดยเจ้าของที่พักแบบมาตรฐานมีรายได้เฉลี่ย 108,000 บาท
“ด้วยปริมาณผู้เข้าพักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 4 ล้านคนในปีที่แล้ว านี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะก้าวสู่การเป็นเจ้าของที่พักกับแอร์บีแอนด์บี ซึ่งการมีที่พักในแอร์บีแอนด์บีไม่ได้เป็นเป็นเพียงที่พักอ้างแรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ทั้งเจ้าของที่พัก และผู้เข้าพักของเราเรียกว่าบ้าน ตัวเลขการเติบโตที่แข็งแกร่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของนักเดินทางที่แสวงหาการเดินทางที่มีเอกลักษณ์ อิสระ และเข้าถึงท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง” โรบิน กวอก ผู้จัดการประจำประเทศ แอร์บีแอนด์บี ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน
“แอร์บีแอนด์บีส่งเสริมธุรกิจการบริการให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น และเรายังมุ่งมั่นในการทำงานด้วยสัมพันธภาพอันดีกับชุมชนท้องถิ่นและรัฐบาลของประเทศไทย เพื่อช่วยให้นักเดินทางได้รั[ประสบการณ์ความสวยงามของประเทศไทยในการเดินทางที่เป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด” โรบิน กล่าว
