เพราะเชื่อว่าการเลือกสินค้าที่ดี่ที่สุดเข้าบ้าน คือการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต วันนี้เลยจะพาทุกท่านไปเยี่ยมชม เอสบี ดีไซน์สแควร์ สาขา คริสตัล ดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) เลียบทางด่วนเอกมัย–รามอินทราที่เพิ่งรีโนเวทและเปิดตัวไปหมาดๆ กับโฉมใหม่ใหญ่กว่าเดิม! บนพื้นที่ 15,000 ตารางเมตร ที่เป็นมากกว่าแค่เฟอร์นิเจอร์หลากสไตล์ แต่สามารถตอบโจทย์ “งานตกแต่งภายใน” ได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมโซนและบริการใหม่ ที่เปิดโอกาสให้คนรักการแต่งบ้านเลือกออกแบบและสั่งทำสินค้าได้เองตามใจ!! ส่วนจะแกรนด์และอิลิแกนซ์กว่าเดิมแค่ไหน!!? ไปดูกัน…
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว (ปี 2552) ที่ เอสบี ได้มาเปิดสาขาที่ CDC ว่า “ว้าว” แล้วในวันนั้น ตัดภาพมาปัจจุบัน (ปี 2562) นับว่า “ล้ำ” ขึ้นไปอีกหลายเท่า เพราะ เอสบี วันนี้ตอบโจทย์ครบเครื่องทุกเรื่องแต่งบ้านจริงๆ มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวหลากสไตล์ เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน นวัตกรรมดีไซน์ล่าสุด ที่ช่วยประหยัดเวลาได้กว่าครึ่งจากการทำบิลท์อินรูปแบบเดิมๆ และอีกหลากหลายโซนใหม่ๆ ที่จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ช้อปสินค้าแต่งบ้านให้มากยิ่งขึ้น เป็นการตอกย้ำว่า เอสบี ดีไซน์ สแควร์ ไม่ใช่แค่ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ แต่พร้อมเป็นผู้รับเหมาตกแต่งภายในให้ลูกค้าแบบครบวงจร!!
ไม่รอช้า พาไปเจาะลึก 8 โซนไฮไลท์เด็ดกันเลย ประเดิมด้วยพระเอกของงานนี้ ที่บริเวณชั้น 2 กับ…
โซน 1 : Zelection Built-in ปฏิวัติวงการบิลท์อินท์ ทลายกรอบการทำงานบิลท์อินรูปแบบเดิมๆ
ใครกำลังหาช่างทำบิลท์อิน ต้องแวะมา โซน Zelection Built-in อย่างด่วน!! เพราะเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์บิลท์อินนวัตกรรมดีไซน์ล่าสุด ที่จะช่วยให้เราได้งานบิลท์อินที่สวยได้อย่างใจ แถมเร็วขึ้นกว่าครึ่งจากกระบวนการทำบิลท์อินรูปแบบเดิมๆ ซึ่งนับเป็น “ครั้งแรกในไทย” กับการนำเอากระบวนการแบบ “PREFAB” มาใช้ในการทำบิลท์อินทุกชิ้นส่วนผลิตจากโรงงาน ทำให้ขนย้ายมาบ้านเราได้สะดวก ติดตั้งได้ไว จึงช่วยลดเวลาการทำงานและลดปัญหาฝุ่นหน้างานได้อีกด้วย แถมเป็นงานบิลท์อินที่มีโครงสร้างอัจฉริยะ (Smart Structural Design) ที่เป็นการผสานเรื่องงานระบบไฟ เฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่งภายในไว้ด้วยกัน ใครจะทำผนังตกแต่ง ทำชั้น ทำตู้โชว์ แล้วอยากจะเติมไฟหลืบไฟซ่อน หรือทำไปบิลท์อินไปแล้วเกิดอยากปรับปรุงเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว
ที่น่าสนใจคือในโซนนี้ มี Design Studio ซึ่งเป็นเหมือน “ห้องจัดแสดงวัสดุ” ที่หาไม่ได้ตามท้องตลาดทั่วไป เพราะเอสบีเป็นผู้นำเข้ามาเองแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อเพิ่มทางเลือกในงานออกแบบตกแต่งให้กับลูกค้า ทั้งงานผ้า หิน อลูมิเนียม เหล็ก ไม้ คอนกรีต ฯลฯ เช่น ไม้นำเข้าจากยุโรปที่มีขนาดใหญ่ สามารถนำไปออกแบบกับงานที่มีฝ้าสูง 3 เมตร ทำให้ได้งานบิลท์อินที่สวยอลังการแบบไร้รอยต่อ, วัสดุผ้าที่ผสมทองคำจริง ให้ลวดลายที่แปลกตาและผิวสัมผัสที่แปลกใหม่, วัสดุอลูมิเนียม ซึ่งพิเศษตรงที่มีกระบวนการชุบ (Anodize) เช่นเดียวกับการชุบตัวเรือน Luxury Watch ของแบรนด์ดัง จึงทำให้ได้อลูมิเนียมที่มีความสวยหรูหราและเงางามเป็นพิเศษ เป็นต้น แต่ถ้าเห็นวัสดุแล้วยังจินตนาการไม่ออกว่าจะเลือกไปออกแบบมิกซ์แอนด์แมตช์ยังไงให้สวยได้อย่างใจ ที่นี่โซนนี้ก็มีห้องตัวอย่างให้ดูถึง 24 ห้อง ให้ดูไอเดียอีกด้วย
ตามติดมาที่..
โซน 2 : Stone Gallery โต๊ะอาหารที่คุณสั่งทำได้อย่างใจ
ถ้าเดินเลือกเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอโต๊ะอาหารที่ถูกใจละก็! เข้ามาโซน Stone Gallery กันเลย เพราะ เอสบี เปิดโอกาสให้คุณเลือกออกแบบและสั่งทำโต๊ะอาหารได้ตามใจในสไตล์ที่เป็นตัวเอง จะเป็นโต๊ะอาหารทรงกลม จัตุรัส สี่เหลียมผืนผ้า…รูปทรงไหนก็ได้หมด ยาวสูงสุดได้ถึง 4 เมตร วัสดุท็อปโต๊ะก็มีวาไรตี้ให้เลือกหลากหลาย อาทิ หินธรรมชาติ หินอ่อน หินลวดลายหายากจากอเมริกาใต้หรือพอร์ชเลน ส่วนโครงขาก็มีให้เลือกหลากวัสดุและสีสัน ทั้ง Stainless, Gold, Rose Gold และ Black Chrome
โซน 3 : SB Bedroom Collection & Model Lab หลากโมเดลดีไซน์สวยสำหรับห้องนอน
เชื่อว่าหลายคนจะถูกใจกับชุดห้องนอนคอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่เอสบี จัดมาไว้ให้เลือกสรรหลากหลายสไตล์ และภายในโซนยังมี Model Lab ซึ่งเป็นพื้นที่รวบรวมทุกไอเท็มของตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของสารพัด Option และหน้าบานดีไซน์จากวัสดุสุดอินเทรนด์ต่างๆ ซึ่งความน่าสนใจก็อยู่ตรงที่เขาจัดโชว์ให้เห็นตู้ขนาดต่างๆ ที่พร้อมแมตช์กับทุกระดับความสูงของฝ้าเพดาน เช่น ฝ้าสูง 3 เมตร ก็มีโชว์ติดตั้งตู้สูง 2.80 เมตร บวกด้วยตู้ ท่อนบนเพื่อเสริมฟังชั่น พร้อมใส่ปิดปลอมโชว์ให้เห็นลักษณะการเก็บงานในส่วนที่เป็นช่องว่างระหว่างตู้กับเพดานอีกด้วยช่วยให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนของการติดตั้งและการเก็บรายละเอียดหน้างานได้ดีทีเดียว
ถัดมาด้านล่างบริเวณชั้น 1 กันบ้าง เริ่มจาก…
โซน 4 : Custom Shop ออกแบบได้ตรงใจ เลือกดีไซน์ในแบบที่เป็นคุณ
เป็นโซน “สินค้าสั่งทำ” สำหรับสินค้ากลุ่มเตียงนอน, โซฟา, สตูล, เก้าอี้, หมอนอิง และผ้าม่าน ยกตัวอย่าง เตียงนอนก็สามารถเลือกได้ตั้งแต่ ขนาดเตียง, ความสูงของหัวเตียง, ดีไซน์ขาเตียง, ฟังก์ชั่นบอดี้เตียงเสริมหรือเตียงลิ้นชัก, ลวดลายและสีสันของวัสดุหุ้มบุ ไปจนถึงสีสันและลวดลายของหมุดตอกเลยทีเดียว คนที่ชอบงานดีไซน์สวยเริ่ดไม่ซ้ำใคร คงถูกใจแน่นอนงานนี้
โซน 5 : Global Brand แบรนด์ดังจากฝั่งยุโรปและอเมริกา
Laura Ashley (ลอร่า แอชลี่) แบรนด์ดังจากฝั่งยุโรป โดดเด่นเรื่อง “ลวดลายและสีสันของงานผ้า” ที่เป็นเอกลักษณ์สะท้อนความมีระดับในแบบฉบับอังกฤษ ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งของแบรนด์ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ British Design with Modern Perspective สะท้อนความมีระดับในแบบฉบับอังกฤษ เฟอร์นิเจอร์เป็นวัสดุไม้แท้ผสานกับงานผ้าคุณภาพสูง เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบ้านสไตล์ Modern Vintage ทั้งนี้ ภายในร้านมีทั้งเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำ รวมถึงของตกแต่งต่างๆ มากมาย ซึ่งยกมาไว้ให้ได้ช็อปแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ เอสบี ดีไซน์สแควร์
Universal (ยูนิเวอร์แซล) แบรนด์ดังจากฝั่งอเมริกา โดดเด่นในเรื่อง “ความหรูหราสง่างาม” ตามสโลแกนของแบรนด์ Unique Bold Touches of American Urban Living ประกอบกับความทันสมัยสไตล์ Modern American อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนเป็นงาน Handcraft เน้นการใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยม ไม้โอ๊ค ไม้มะฮอกกานี เพื่อสร้างสัมผัสแบบ American Signature ด้วยโลหะทองเหลือง, หนังแท้ Full-grain รวมถึงผ้าที่ใช้เป็นผ้านวัตกรรมใหม่ มีคุณสมบัติพิเศษทำความสะอาดง่าย อีกจุดเด่นที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ คือเรื่องของงาน Interior การตกแต่งร้าน ที่โทนสีเข้ม เพื่อช่วยขับให้เฟอร์นิเจอร์ดูเด่นขึ้น นอกจากนี้การทำผนังตกแต่ง ภาพอาร์ตๆ และของตกแต่งพวก Sculpture, กระจก และโคมไฟดีไซน์เก๋ๆ เมื่อถูกนำมาจัดวางเข้าด้วยกัน ยิ่งทำให้ mood & tone ของห้องดูมี Taste ที่น่าสนใจมากขึ้น เชื่อว่าคนรักการแต่งบ้านที่มาเยี่ยมชมภายในร้านต้องได้ Inspire ดีๆ ในการตกแต่งบ้านแน่นอน!
และเพื่อให้ครบเครื่องเรื่องแต่งบ้าน ต้องไม่พลาดมาส่องโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าสุดล้ำกันหน่อย ที่บริเวณชั้นลอยกับ…
โซน 6 : Power Buy x SB Design Square @ CDC
อีกหนึ่งประสบการณ์ช้อปด้วยศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง Power Buy ที่พร้อมให้คุณอัพเดทนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที และอุปกรณ์อิเล็กทรอกนิกส์ต่างๆ มากมาย ให้เราได้เลือกสรรไปเติมเต็มการแต่งบ้านได้แบบครบถ้วนสมบูรณ์
เดินเพลินๆ ชักหิว แวะมาชิลกันต่อที่…
โซน 7 : Pacamara x SB Design Square @ CDC
ครั้งแรกกับการ Collaboration กันระหว่างร้านกาแฟชื่อดัง Pacamara ซึ่งยกเคาน์เตอร์มารังสรรค์เมนูสุดพิเศษ ทั้งยังสนุกกับการดีไซน์ลาเต้อาร์ท ในสไตล์ของคุณเองได้อีก พร้อมเสิร์ฟอยู่ใจกลางศูนย์รวมการแต่งบ้านและดีไซน์ที่ครบวงจรที่สุดอย่าง เอสบี ดีไซน์สแควร์ @CDC คอกาแฟตัวจริงต้องไม่พลาด!
ปิดท้ายด้วย ไฮไลท์โซนสุดท้าย กับ…
โซน 8 : SB Designer Club Workspace
โซนนี้เหมาะกับคนที่พาอินทีเรียร์ดีไซน์เนอร์คู่ใจมาด้วย ถ้าดีไซน์เนอร์ของคุณเป็นสมาชิก SB Designer Club ก็จะได้รับสิทธิ์ใช้ Workspace ที่จัดไว้เป็นพิเศษ ให้คุณได้นั่งพูดคุยเพื่อสรุปงานออกแบบตกแต่งต่างๆ ซึ่งก็พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Meeting Rooms, Smart TV, Free WIFI, Pointer, Bluetooth Speaker, F&B Special Pack โดยดีไซน์เนอร์สามารถแจ้งจองห้องล่วงหน้าได้ที่ Line@sbdesignerclub
ซึ่งงานนี้ มีเหล่าดีไซเนอร์ชื่อดังมาร่วมงานพร้อมทดลองใช้บริการ SB Designer Club Workspace กันอย่างคับคั่ง หนึ่งในนั้นคือ “คุณจือ–ณัฎฐา สุนทรวิเนตร์” ผู้บริหาร และ Design Director บริษัท Double V Space เลยขอถือโอกาสสัมภาษณ์ถึง ‘เทรนด์การตกแต่งบ้าน’ ที่กำลังมาแรงทั้งในตอนนี้และในปีหน้าแบบกระชับจับใจความง่ายๆ
ซึ่ง คุณจือ เผยว่า “ปัจจุบันคนเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้เมื่อมีวัสดุใหม่ๆ เข้ามาก็จะตื่นเต้นพร้อมเปิดรับกันมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวยังมองว่าเทรนด์ธรรมชาติจะอยู่ได้อีกหลายปี เพราะเมื่อคน touch กับเทคโนโลยีเยอะ เขาก็อยากจะผ่อนคลาย แล้วอะไรที่เราอยากจะทำให้เขากลับคืนธรรมชาติ ก็คือวัสดุที่มาจากธรรมชาติจริงๆ ดังนั้น ปูนเปลือย หินอ่อน เหล็ก หรือไม้ ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศ หรือดึงผู้อยู่อาศัยไปอยู่ในอารมณ์ธรรมชาติหรือรีสอร์ทก็สามารถทำได้ ไม่ใช่แค่เข้าไปอยู่ห้องใดห้องหนึ่งของบ้าน แต่สามารถสร้างบรรยากาศให้เขากลับบ้านแล้วผ่อนคลาย เพราะแต่ละคนมี safe zone ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เราก็สามารถดึงตัวตนเขาออกมาแล้วสะท้อนกลับไปผ่านการใช้สีหรือวัสดุ เช่น หากเขาชอบห้องสีมืด ก็อาจจะใช้ผนังเหล็ก ฯลฯ”
“อย่างไรก็ตาม มองว่าเทรนด์ไม่มีตายตัว เพราะงานออกแบบมีความหลากหลาย และเป็นไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนมากกว่า ว่าชื่นชอบแบบไหน เทรนด์จึงเป็นเรื่องฉาบฉวย จับต้องยากและไม่มีจริง แต่หากว่าเราสามารถเสนอวัสดุใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้ ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับจือ เหมือนเราอินเทรนด์ เพราะเรามีอะไรใหม่ๆ ให้ลูกค้า เหมือนเรา up to date มากกว่า ซึ่ง interior designer ต้องมีการอัปเดตวัสดุตลอด 6 เดือน วัสดุที่สต็อกไว้ก็ต้องโละใหม่หมดเลย ดังนั้น เทรนด์เหมือน fast fashion หรือสิ่งที่มาแล้วก็ไป ไม่ได้กำหนดว่าสไตล์นี้กำลังมาใหม่ แต่เป็นวัสดุมากกว่าที่มาใหม่แล้วเราต้องตามให้ทัน อันนี้คือเทรนด์ที่เราพยายาม catch และ provide ให้ลูกค้าได้ทัน ทั้งนี้ ยังทราบมาด้วยว่าผู้บริหารเอสบี ได้เดินทางไปเลือกวัสดุเองในต่างประเทศ ก็เหมือนเขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้าอย่างพิถีพิถัน ไม่มีตกเทรนด์แน่นอน”