ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ และยอดใช้จ่ายโดยรวมเติบโตขึ้น
6 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2561
วีซ่า ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลชั้นนำระดับโลก เผยให้เห็นว่าการชำระเงินแบบดิจิตอลรูปแบบต่าง ๆ ที่มีความปลอดภัย สะดวกและรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวไทยเปลี่ยนพฤติกรรมมาเลือกชำระเงินแบบดิจิตอลมากขึ้นยกตัวอย่างจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยยอดใช้จ่ายของผู้ถือบัตรวีซ่าเพิ่มขึ้นถึง 15 เปอร์เซ็นต์ และยอดใช้จ่ายโดยรวมเติบโตขึ้นถึง 6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน[1]
ข้อมูลนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยเลือกใช้วิธีชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลสำหรับการซื้อสินค้าในร้านค้า และออนไลน์มากยิ่งขึ้น ตอบสนองนโยบายของประเทศในการผลักดันประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสด
สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ข้อมูลการใช้จ่ายนี้แสดงให้เห็นถึง ความคืบหน้าของประเทศในการก้าวสู่สังคมไร้เงินสดอย่างมั่นคง ผู้บริโภคชาวไทยมีความมั่นใจที่จะชำระเงิน ผ่านระบบดิจิตอลมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสอดรับกับความต้องการของภาครัฐในการรับจ่ายเงินผ่านระบบ การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์”
โดยเทรนด์การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมามีทั้งนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางในประเทศและเดินทางไปต่างประเทศ โดยข้อมูลของ วีซ่า แสดงให้เห็นว่าในช่วงเทศกาลฉลองนี้ 39 เปอร์เซ็นต์ของผู้ถือบัตรวีซ่าชาวไทยใช้จ่ายในประเทศไทย 57 เปอร์เซ็นต์ใช้บัตรวีซ่าในจังหวัดที่ตนอยู่อาศัย และ 4 เปอร์เซ็นต์ ใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าในต่างประเทศ
ด้านการท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศ ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า บัตรวีซ่าที่ออกโดยธนาคารในประเทศไทยถูกนำไปใช้มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตามมาด้วย เกาหลีใต้ อเมริกา อังกฤษ และฮ่องกง ในขณะที่ไต้หวันและออสเตรเลียเริ่มได้รับความนิยมสูงขึ้นสำหรับผู้ถือบัตรวีซ่าชาวไทยโดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้สิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเลือกช้อปผ่านบัตรมากที่สุดคือ ของใช้ทั่วไป เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ที่พัก และค่าใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร[2]
ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยเองก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะมียอดใช่จ่ายสูงขึ้นถึง 4 เปอร์เซ็นต์เทียบจากปีก่อนหน้า[3] โดยยอดใช้จ่ายนี้เกิดจากนักท่องเที่ยวชาวอเมริกา อังกฤษ จีน เยอรมัน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น รัสเซีย ฝรั่งเศส สิงคโปร์ และอินเดีย และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือปีนี้นับเป็นปีแรกที่ชาวอินเดียติดหนึ่งในสิบอันดับประเทศที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าสูงสุดในประเทศไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยส่วนใหญ่เลือกใช้บัตรวีซ่าชำระเงินตามจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี
ผู้ถือบัตรวีซ่าที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ มีการใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วงเทศกาลที่เป็นจังหวัดใหญ่ๆ เช่น ชลบุรี นครศรีธรรมราช อยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ และนครราชสีมา โดยผู้ถือบัตรวีซ่าที่อยู่ในเมืองอื่น ๆ ก็มีพฤติกรรมการใช้จ่ายคล้าย ๆ กัน โดยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของบัตรวีซ่า คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี นครศรีธรรมราช นครราชสีมา และระยอง[4]
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามองคือจำนวนยอดทำธุรกรรมผ่านบัตรวีซ่าในจังหวัดชลบุรี อยุธยา นครราชสีมา และระยองมีอัตราเพิ่มขึ้นเกิน 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2561 โดยค่าน้ำมัน สินค้าอุปโภคบริโภค ค่าอาหาร และสินค้าเครื่องใช้ในบ้าน ถือเป็นกลุ่มประเภทค่าใช้จ่ายที่ผู้ถือบัตรวีซ่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลนี้เป็นลำดับต้น ๆ
“เราดีใจที่ได้เห็นผู้บริโภคชาวไทยหันมาใช้จ่ายผ่านระบบดิจิตอลมากยิ่งขึ้น โดยหวังว่าการแชร์ข้อมูลที่น่าสนใจในครั้งนี้จะช่วยให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องสามารถนำข้อมูลไปใช้เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้เหมาะสมตามความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมที่ใช้เงินสดน้อยลงได้อย่างรวดเร็ว” สุริพงษ์ กล่าวปิดท้าย
[1] ข้อมูลอ้างอิงจาก VisaNet ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2562 ของบัตรวีซ่าที่ออกโดยธนาคารในประเทศไทย
[2] ข้อมูลอ้างอิงจาก VisaNet ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2562 ของบัตรวีซ่าที่ออกโดยธนาคารในประเทศไทย
[3] ข้อมูลอ้างอิงจาก VisaNet ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2562 ของบัตรวีซ่าที่ออกโดยธนาคารในต่างประเทศ
[4] VisaNet, Songkran Period: 11 – 17 April 2019, Thailand issued cardholders