กรุงเทพฯ: พีเอ็มเอช โฮลดิ้ง จำกัด (PMH Holding Co.,Ltd.) บริษัททางเลือกแนวใหม่ของผู้บริโภคที่หลงใหลในนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจจากทั่วโลก ซึ่งเราจะเป็นผู้คัดสรรมานำเสนอให้กับผู้บริโภค ถือเป็นการตอบสนองให้กับผู้บริโภค ที่ไม่ชอบความจำเจกับไลฟ์สไตล์แบบเดิมๆ รวมไปถึงการสร้างเทรนด์ใหม่ๆให้อีกด้วย

นายศิรัส ต่อสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทพีเอ็มเอช โฮลดิ้ง จำกัด (PMH Holding Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า “สำหรับบริษัทของเราถือว่าเพิ่งได้เปิดตัวในปีนี้ โดยที่เรามีจุดขายคือ สรรหานวัตกรรมจากทั่วโลกมานำเสนอให้กับคนไทย โดยเป็นสิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะเราไม่อยากให้ผู้บริโภค ยึดติดกับค่านิยมแบบเดิมๆ และไลฟ์สไตล์แบบเดิมๆ อยากให้มีทางเลือกมากขึ้นและกล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆแบบสร้างสรรค์

สำหรับการเปิดตัวในครั้งนี้ เราเลือกที่จะนำเข้ามาทั้งหมด 5 รุ่นประกอบด้วย

รุ่นที่เข้ามาในไทยประกอบด้วย RG160 ,RG310 ,RG730 ,RG310.2 และ RG730.2 โดยรุ่นที่ลงท้ายด้วยรหัส .2 จะเป็นโมเดลสำหรับใช้งานใน Zone 2 ซึ่งเป็นพื้นที่อัตรายเนื่องจากมีรั่วไหลของก๊าซหรือไอระเหยของสารไวไฟ (Flammable gases or vapors) ออกมาปะปนในบรรยากาศ

* โซน 2 (Zone 2) คือ พื้นที่อันตรายเนื่องจากมีการรั่วไหลของก๊าซหรือไอระเหยของสารไวไฟ (flammable gases or vapors) ออกมาผสมอยู่ในบรรยากาศจนเกิดบรรยากาศที่จุดติดไฟแทบไม่เกิดขึ้นในการทำงานปกติ หรือโอกาสเกิดขึ้นได้นานๆครั้ง เช่น เมื่อเกิดอุบัติเหตุในกระบวนการทำงานหรือการทำงานผิดปกติ หรือจะเกิดขึ้นเฉพาะภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ปล่อยให้เกิดการรั่วไหลเป็นเวลานาน


สเปคที่เป็นไฮไลท์ของ Ruggear ทุกรุ่นจะประกอบด้วย

  • มีปุ่ม Push to Talk และลำโพงสำหรับใช้งานวอล์คกี้ ทอล์คกี้ ผ่านสัญญานอินเตอร์เน็ต
  • มีอุปกรณ์ครบเครื่องเป็นทั้ง มือถือ ,ไฟฉาย,วอล์คกี้ ทอล์คกี้ ฯลฯ ในตัวเดียว
  • มีมาตรฐาน IP68 กันน้ำได้ลึกสูงสุด 2 เมตร เป็นเวลา 30 นาที และรับแรงตกกระแทกสูงสุด 8 เมตร

โดยกลุ่มเป้าหมายสำหรับ Ruggear ได้แบ่งเป็น 2กลุ่มหลัก ประกอบด้วย

  1. B2C เน้นผู้ใช้ทั่วไปที่เน้นการใช้งานแบบสมบุกสมบัน หรือคนที่ทำอาชีพ วิศกร หรือผู้รับเหมา โดยมีรุ่น RG160 ราคา 5,990 บาทเป็นตัวชูโรงเน้นขายบุคคลทั่วไปสำหรับรุ่นนี้
  2. B2B เน้นกลุ่มธุรกิจสื่อสาร ,โทรคมนาคม ,โรงแรม ,อุตสาหกรรมปิโตรเคมี หน่วยราชการ และธุรกิจขนส่ง ซึ่งเป็นตลาดหลักของแบรนด์ มีรุ่น RG310 ,RG730 ,RG310.2 และ 2 เป็นตัวขาย โดยจะขายพ่วงพร้อมระบบและการติดตั้ง (ราคาจะผันแปรไปกับจำนวนเครื่องที่สั่งพร้อมระบบการใช้งาน)

ทางด้านงบการตลาดนั้นเราได้วางไว้อยู่ที่ 2ล้านบาท เน้นการเจาะตลาดทางด้าน B2B เป็นหลัก ด้านคู่แข่งในตลาดนี้ตอนนี้ยังไม่มี ตัวนี้น่าจะเป็นเจ้าแรกที่เข้ามาในเมืองไทย คาดหวังว่าหลังจากเปิดตัวไปแล้ว น่าจะได้รับความสนใจมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีหลายบริษัทติดต่อเข้ามา อีกทั้งยังเป็นมาตรฐานจากเยอรมันที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

สิ่งที่อยากทิ้งท้ายคือ อยากให้คนไทยได้ลองอะไรใหม่ๆมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีมีอยู่ทั่วโลก ล้วนแต่น่าสนใจ และควรศึกษา จะทำให้เรามีมุมมองใหม่ๆ และได้รับประสบการณ์ใหม่ๆเพิ่มเติมมากขึ้นด้วย และคาดว่า Ruggear ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจให้คนไทยได้ลองใช้กันครับ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท บริษัทพีเอ็มเอช โฮลดิ้ง จำกัด (PMH Holding Co.,Ltd.) โทร.02 105-4274/ www.pmhholding.com/ อีเมลล์ : [email protected] “ คุณศิรัส กล่าวทิ้งท้าย