ประเทศไทย ภาพที่ปรากฎแก่สายตา: กองทัพยนตรกรรมสปอร์ตนับร้อยคันจากปอร์เช่ตั้งแต่อดีตและจนถึงรุ่นปัจจุบัน เสียงกระหึ่มเร้าอารมณ์: ราวกับการบรรเลงบทเพลงออเคสตร้าด้วยพลังเสียงจากการทำงานของเครื่องยนต์ประสานกับ เสียงยางที่บดขยี้กับพื้นถนนจนแทบทะลุทุกข้อจำกัด และปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้น ณ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

ในวาระฉลองครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งองค์กร รวมทั้งการถือกำเนิดของรถสปอร์ตจากปอร์เช่ บริษัทมีความยินดีที่จะได้ ต้อนรับทุกท่าน เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ระดับโลก Sportscar Together Day (SCTD) ซึ่งจะจัดขึ้น ณ Oasis Arena ศูนย์การค้า Show DC ในวันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม 2018 ตั้งแต่เวลา 13:00 – 24:00 น.

ในงาน SCTD ทุกท่านจะได้พบกับกิจกรรมต่างๆ สำหรับครอบครัวและมิตรสหายผู้หลงใหลในยนตกรรมสปอร์ตสายเลือด เยอรมัน จัดเตรียมไว้อย่างเพียบพร้อม อาทิ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่เสมือนจริง Porsche Virtual Reality experience และ E-Performance showcase กิจกรรมสอนการขับขี่สำหรับเด็ก Kids Driving School และตื่นตาตื่นใจไปกับความแรง กับกิจกรรม hot-lap rides ด้วยรถซูเปอร์สปอร์ตปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ อำลาการแข่งขันซึ่งจัดขึ้นทั่วทุกมุมโลกของรถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) ที่ถูกนำมาจัด แสดงเป็นพิเศษเฉพาะงาน SCTD ซึ่งโอกาสสุดพิเศษนี้จัดขึ้นเพื่อบรรดาผู้หลงใหลในรถยนต์ปอร์เช่ในประเทศไทยโดย เฉพาะ ในส่วนของการสังสรรค์และอาหารเลิศรส ทุกท่านจะได้พบกับ Porsche Curves Café เบียร์การ์เด้นสไตล์ เยอรมันสุดคลาสสิก และซุ้มบริการอาหารมากมายที่พร้อมเสิร์ฟอาหารพื้นเมืองสูตรเยอรมันดั้งเดิมให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง ในส่วนของกิจกรรมช่วงกลางคืน เสริมบรรยากาศให้คึกคักขึ้นจาก Porsche by Night festival เพลิดเพลินกับเสียงดนตรี โดยเหล่า DJ ชื่อดังและการแสดงสดจากศิลปินระดับแนวหน้า

พลาดไม่ได้กับการรวมตัวของขบวนรถสปอร์ตมากกว่า 200 คัน จากผู้ขับขี่ปอร์เช่ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งรถทุกคันจะมาปรากฎโฉมเพื่อร่วมกิจกรรม “Das Treffen” อันเป็นงานรวมพลยนตรกรรมปอร์เช่ที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เทียบเท่ากับการจัดกิจกรรมดังกล่าว ในสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป และ ออสเตรเลีย พร้อมรับชมการถ่ายทอดสด การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการ Porsche Carrera Cup Asia ซึ่งจะจัดขึ้นที่ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรีในช่วงสุดสัปดาห์เดียวกัน และจะมีการถ่ายทอดสดส่งตรงจากสนามมาให้ แขกผู้มีเกียรติและเหล่าคนรักรถทุกท่านได้ร่วมชมและเชียร์รถแข่งคันโปรดไปพร้อมๆ กันในงานนี้อีกด้วย

“70 Years Porsche Sports Cars” จัดขึ้นเป็นพิเศษโดยเริ่มต้นขึ้นที่ สตุ๊ทการ์ท ในวันที่ 8 มิถุนายน 2018 สำหรับกรุงเทพมหานคร นับเป็นสถานที่ล่าสุดของการจัดกิจกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ในทั่วทุกมุมโลก โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ การเฉลิมฉลองวาระพิเศษครบรอบ 70 ปี การก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตยนตรกรรมสปอร์ตสัญชาติเยอรมันที่มีเกียรติประวัติอัน ยาวนาน

จุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 8 มิถุนายน 1948 เมื่อรถยนต์ต้นแบบคันแรกของปอร์เช่ หมายเลขตัวถัง 356-001 ได้รับการอนุมัติให้ผลิตอย่างเป็นทางการในประเทศเยอรมนี นับเป็นก้าวแรกของการดำเนินงานอย่างเต็ม รูปแบบของแบรนด์รถยนต์ปอร์เช่ จนถึงทุกวันนี้ปอร์เช่ไม่ได้เป็นเพียงยานยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการส่งมอบ ประสบการณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ปอร์เช่ยังเป็นตัวแทนของนวัตกรรมเทคโนโลยี งานออกแบบ และอรรถประโยชน์ที่เหนือล้ำ

หากจะเปรียบว่าปอร์เช่ 356 “No. 1” สปอร์ตโรดสเตอร์ ติดตั้งเครื่องยนต์วางกลางสมรรถนะสูงบนโครงสร้างตัวถัง น้ำหนักเบาแบบ lattice tube-framed คือรถยนต์ที่ได้รับการขนานนามให้เป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยของปอร์เช่ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ความสำเร็จของบริษัทที่เป็นตำนานเล่าขานมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คือสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาในปี 1963 ด้วยการปรากฎตัวของรถสปอร์ตที่สามารถครองใจบรรดาสาวกผู้นิยมความเร็วทุกมุมโลก ในชื่อปอร์เช่ 911
(Porsche 911) นี่คือรถสปอร์ตคันแรกที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมผสานระหว่างสมรรถนะ การขับขี่ชั้นเลิศและความ สะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน สูตรสำเร็จนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นด้วยยอดจำหน่ายที่มากกว่าหนึ่งล้านคันจาก ผู้ที่ชื่นชอบความเร็วทั่วโลก

ทุกวันนี้ ปอร์เช่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมยานยนต์ ในฐานะของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่สร้างผลกำไรได้มาก ที่สุดด้วยสายการผลิตยนตรกรรมสปอร์ตรวมทั้งหมด 5 รุ่น ประกอบด้วย: ปอร์เช่ 911 (Porsche 911), คาเยนน์ (Cayenne) , มาคันน์ (Macan) , พานาเมร่า (Panamera) และ 718 บ็อกซเตอร์/เคย์แมน (718 Boxster/Cayman) ถึงแม้รถยนต์ปอร์เช่ในทุกรุ่นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างหลากหลายตามวัตถุประสงค์ในการออกแบบพัฒนา แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคง ติดตรึงอยู่ในยนตรกรรมปอร์เช่ทุกคันคือ: สายเลือดและจิตวิญญาณของรถสปอร์ตพันธุ์แท้รถยนต์ปอร์เช่ทุกคันถูกรังสรรค์ ขึ้นตามหลักปรัชญาที่ผ่านการสืบทอดและรักษาไว้อย่างเหนียวแน่นตลอดมา และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป หรือแม้ในอนาคต ข้างหน้าอีก 70 ปีก็ตาม และอีกไม่นานเกินรอ เตรียมพร้อมรับการมาถึงของอนาคตแห่งยานพาหนะสุดล้ำ: ปอร์เช่ประกาศ ชื่ออย่างเป็นทางการของรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรก ไทคานน์ (Taycan) อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย: พละกำลังสูงสุดกว่า 600 แรงม้า ให้อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 3.5 วินาที ปอร์เช่ทุ่มงบประมาณลงทุนมากกว่า 6000 ล้านยูโร เพื่อการวิจัยและพัฒนายานพาหนะพลังงานไฟฟ้าให้สำเร็จลุล่วงภายในปี 2022 และนี่คือหนึ่งในผลงานที่ควรค่าแก่การ จับตามองอย่างใกล้ชิด