วันที่ 22 พ.ค.- ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถนนพระราม 6 กระทรวงวิทย์ฯ ได้ฤกษ์จุดพลุเปิดงาน “สตาร์ทอัพ ไทยแลนด์ 2017” ความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทย์ฯ กับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่อยอดยกระดับสตาร์ทอัพไทยแลนด์ สู่การเป็นแพลทฟอร์ม เชื่อมโยงและส่งเสริมสู่ระดับภูมิภาค โดยวางเป้าจัดงานตามหัวเมืองภาคต่างๆ 5 จังหวัดเริ่มที่ชลบุรี เป็นจังหวัดแรกในวันที่ 26-27 พ.ค. ศกนี้ และจะจัดหมุนเวียนไปที่สงขลา ขอนแก่น เชียงใหม่ และปิดท้ายที่กรุงเทพมหานคร
โดยงานแถลงข่าว “สตาร์ทอัพ ไทยแลนด์ 2017” จัด ณ ห้องโถงชั้น 1 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ได้รับเกียรติจาก ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มาร่วมกล่าวถึงบทบาท วัตถุประสงค์ และความร่วมมือในการพัฒนา สตาร์ทอัพ ไทยแลนด์ ซึ่งมีเอิ้น-ปานระพี รพิพันธุ์ ผู้ประกาศข่าวชื่อดังเป็นผู้ดำเนินรายการ
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า งาน “สตาร์ทอัพ ไทยแลนด์ 2017” เป็นการต่อยอดเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง และทันเหตุการณ์ มั่นใจจะยกระดับสู่การเป็นแพลทฟอร์มใหม่ ในตการเชื่อมโยง และส่งเสริมสตาร์ทอัพในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้แนวคิด Startup Thailand, Scale up Asia จะเป็นการแสดงความพร้อมของประเทศไทย และเห็นถึงจุดยืนความมุ่งมั่นในการก้าวสู่ประเทศเศรษฐกิจฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเพื่อการขยายธุรกิจขยายฐานสตาร์ทอัพ ไทยสู่เอเชียภายในปี 2560 นี้
ด้าน รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเสริมว่า งาน “สตาร์ทอัพ ไทยแลนด์ 2017” ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะเป็นสะพานเชื่อมโยงความร่วมมือการพัฒนาสตาร์ทอัพ ในอาเซียน สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการขยายธุรกิจในแบบฉบับก้าวกระโดด พร้อมเปิดโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ อาทิ นักเรียน นักศึกษา นักเรียนอาชีวะ ได้เรียนรู้ผ่านเวทีการแข่งขัน, นิทรรศการ โดยจะมีความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษา 30 แห่ง จัดทำเป็นหลักสูตร 9 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ ด้านภาครัฐและการศึกษา, ด้านเกษตรและอาหาร, ด้านการแพทย์และสาธารณสุข, ด้านอุตสาหกรรม, ด้านการบริการ, ด้านการเงิน, ด้านไลฟ์สไตล์, ด้านการท่องเที่ยว และด้านอสังหาริมทรัพย์
ทศ จะสอดคล้องกับ “ประเทศไทย 4.0” นโยบายของรัฐบาลที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ข่าวดีก็คือ ในงาน สตาร์ทอัพ ไทยแลนด์ 2017 มีผลงานนวัตกรรมมากกว่า 550 สตาร์ทอัพ ที่จะเข้ามาร่วมประกวด ซึ่งทางกระทรวงวิทย์ฯ ตั้งเป้าไว้ว่าจะสนับสนุน 1 รายต่อ 5 ล้านบาท อันจะนำมาซึ่งการผลักดันให้เกิดสังคมแห่งผู้ประกอบการขึ้นในประเทศไทย และพัฒนาไปสู่ระดับเอเชีย ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” ปลัดกระทรวงกล่าว
ขณะที่ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวสรุปว่า จุดเด่นของงาน “สตาร์ทอัพไทยแลนด์ 2017 เป็นการตอบโจทย์การพัฒนาสตาร์ทอัพทั้งระบบ คือ การเรียนรู้ไม่รู้จบ และเอื้อประโยชน์ระหว่างกันในเชิงธุรกิจ ซึ่งการแข่งขัน Pitching ถือเป็นหัวใจสำคัญของการหาเงินทุนของสตาร์ทอัพ ดังนั้นกระทรวงวิทย์ฯ จึงได้จัดให้มีกิจกรรมประกวดขึ้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ตลอดจนบ่มเพาะ ในการเริ่มต้นธุรกิจ การให้คำปรึกษาแหล่งทุน และการแนะนำแนวทางการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงวิทย์ฯ โดยตรง
ทั้งนี้ภายในงานแถลงข่าว“สตาร์ทอัพ ไทยแลนด์ 2017” ยังเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยประสบการณ์ พัฒนาการ และความก้าวหน้า จากผู้ร่วมงาน สตาร์ทอัพไทยแลนด์ ปี 2016 ที่ผ่านมา โดยมีนายธนพงษ์ ณ ระนอง ผู้แทนสมาคมไทยผู้ประกอบการธุรกิจเงินร่วมลงทุน, นายวัชระ เอมวัฒน์ นายกสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ และนายภาโรจน์ เด่นสกุล ซีอีโอ ซิปอีเว้นท์ มาร่วมให้คำแนะนำ และพูดคุยถึงประสบการณ์ในปีที่ผ่านมา
สำหรับการจัดงาน “สตาร์ทอัพ ไทยแลนด์ 2017” จะเริ่มจัดขึ้นใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออก ในจังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2560, ภาคใต้ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 2-3 มิถุนายน 2560, ภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 9-10 มิถุนายน 2560, ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายน 2560 และกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 6-9 กรกฎาคม 2560
สอบถามข้อมูล : กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.02-333-3700 ต่อ 3727 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทร.02-564-7000 ต่อ 71731