· เส้นทางบินลำดับที่สี่สู่อเมริกาใต้จะพร้อมให้บริการผู้โดยสารถึง 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
· บริการเส้นทางการบินล่าสุดนี้ทำให้สายการบินเอมิเรตส์ให้บริการเที่ยวบินสู่เซาเปาโลจำนวนกว่า 12 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
· ผู้โดยสารสามารถเดินทางระหว่างชิลีและบราซิลโดยสายการบินเอมิเรตส์แล้ววันนี้

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม 2561กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย: สายการบินเอมิเรตส์ ประกาศเปิดตัวเส้นทางการบินจากดูไบสู่สนามบินซานเตียโก (SCL) ผ่านทางเมืองหลวงของบราซิลอย่างเซาเปาโล พร้อมให้บริการแก่ผู้โดยสารด้วยจำนวนเที่ยวบินกว่า 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เส้นทางการบินใหม่นี้ทำให้มีจำนวนเที่ยวบินสู่เซาเปาโลเพิ่มขึ้นถึง 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยจะให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัสA380 ระหว่างดูไบสู่เซาเปาโล จากการเพิ่มเที่ยวบินดังกล่าวจึงทำให้สายการบินเอมิเรตส์มีเที่ยวบินสู่เซาเปาโลจำนวนมากถึง 12 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งเที่ยวบินสู่ซานเตียโกจะเชื่อมต่อกับเส้นทางเซาเปาโล ผู้โดยสารจากอเมริกาใต้จึงสามารถเดินทางระหว่างสองเมืองนี้ได้อย่างสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สำหรับพลเมืองของประเทศบราซิลและชิลีสามารถใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนในการเดินทางระหว่างกันของสองประเทศนี้เท่านั้น

เส้นทางการบินนี้จะให้บริการด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777 ในแบบ 2 คลาส ซึ่งประกอบด้วยที่นั่งชั้นธุรกิจจำนวน 38 ที่นั่ง ด้วยการจัดเรียงที่นั่งแบบ 2-2-2 และที่นั่งชั้นประหยัดจำนวน 264 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีบริการคาร์โก้ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 14 ตัน จึงทำให้ผู้ส่งออกชาวชิลีสามารถส่งออกสินค้าออกสู่ตลาดโลกได้อย่างง่ายดายมากขึ้น เช่น ปลา ซีฟู้ด เชอรี่ ดอกไม้ และสินค้าหรืออาหารสดทั่วไป

นาย ทิม คลาร์ก ประธานกรรมการสายการบินเอมิเรตส์ กล่าวว่า การเปิดเส้นทางสู่ประเทศชิลีเป็นไปตามความตั้งใจของเราที่จะเดินหน้าให้บริการสู่เส้นทางในอเมริกาใต้ด้วย 4 เส้นทางในทวีปนี้และอีก 5 เที่ยวบินสู่เมืองเซาเปาโล เรามีความยินดีที่ได้ขยายจุดหมายปลายทางเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับพันธมิตรชาวชิลีเพื่อมอบบริการอันเป็นเอกลักษณ์และได้รับรางวัลการันตีนี้แก่เหล่าผู้โดยสารต่อไป

เที่ยวบินและการเชื่อมต่อสู่เครือข่ายของสายการบินเอมิเรตส์กว่า 160 เส้นทางทั่วโลก

เที่ยวบิน EK263 ออกเดินทางจากดูไบในทุกวันอังคาร, พฤหัสบดี, ศุกร์, เสาร์และอาทิตย์ เวลา 9.05 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเดินทางถึงเซาเปาโล เวลา 17.00 น. ก่อนออกเดินทางอีกครั้งในเวลา 18.30 น. และถึงเมืองซานเตียโกเวลา 21.40 น. ในวันเดียวกัน สำหรับเที่ยวบินกลับ EK263 ออกเดินทางจากซานเตียโกในทุกวันจันทร์, พุธ, ศุกร์, เสาร์และอาทิตย์ เวลา 7.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเดินทางถึงเซาเปาโลเวลา 5.55 น. ซึ่งเที่ยวบิน EK263 จะออกเดินทางอีกครั้งจากซานเตียโกสู่ดูไบในเวลา 7.45 น. และเดินทางถึงดูไบเวลา 5.15 น. ในวันถัดไป

ตารางเวลาเดินทางของเส้นทางใหม่ได้ช่วยให้ผู้โดยสารที่เดินทางจากเอเชียและตะวันออกกลางสามารถเดินทางได้อย่างราบรื่น โดยการเปลี่ยนเครื่องที่สะดวกในดูไบ ในขณะเดียวกันผู้โดยสารจากเซาเปาโลยังสามารถเดินทางออกจากเซาเปาโลในช่วงเช้าเพื่อไปถึงดูไบได้ในช่วงเช้าเช่นเดียวกัน ซึ่งล้วนแต่ทำให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้นในการเดินทางสู่จุดหมายปลายทางทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศจีน และตะวันออกกลาง

ชิลี นับเป็นอีกจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักธุรกิจและนักเดินทางจากทั่วโลก รวมถึงผู้โดยสารจากเส้นทางในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ประเทศจีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ไทย และอินเดีย ทั้งนี้ชิลียังคงมีชุมชนของชาวจีนและชาวตะวันออกกลาง จึงนับเป็นกลุ่มหนึ่งที่จะได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นจากเปิดบริการในเส้นทางนี้

บินสู่ชิลีกับสายการบินเอมิเรตส์

ซานเตียโก เป็นเส้นทางแรกในชิลีที่เอมิเรตส์ได้เปิดเส้นทางให้บริการ โดยถือเป็นเมืองขนาดใหญ่ของชิลีที่ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในจำนวนกว่าครึ่งหนึ่ง ทั้งยังมีชื่อเสียงด้านมหาวิทยาลัยชั้นนำ บริษัทระดับโลก สตาร์ทอัพรุ่นบุกเบิก ที่ล้วนแต่ผลมาจากประชากรที่มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดี ซึ่งความโดดเด่นนี้ได้ส่งผลที่ดีต่อประสิทธิภาพทางเทคโนโลยีในระบบเศรษฐกิจของบริษัทระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่หรือสำนักงานประจำภูมิภาคในเมืองนี้ นอกจากนี้ชิลียังเป็นแหล่งผลิตทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

ชิลีเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพและเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกาใต้ เต็มไปด้วยทิวทัศน์และประวัติศาสตร์อันงดงาม เสน่ห์ของคนท้องถิ่นและอาหารอันเลิศรส การท่องเที่ยวในประเทศชิลีมีแนวโน้มการเติบโตอย่างยั่งยืนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยในพ.ศ. 2559 มีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ จำนวนกว่า 5.6 ล้านคน ในขณะที่พ.ศ.2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 4.43 ล้านคน ทั้งนี้ชิลียังมีการผจญภัยที่หลากหลายสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการนอนดูดาวในทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดในโลก ธารน้ำแข็งพันปีในทางตอนใต้ ผืนป่าอันน่าหลงใหล และทะเลสาบที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟขนาดใหญ่ โดยชิลียังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและผู้ส่งออกไวน์ระดับต้นๆของโลก

นักท่องเที่ยวจากประเทศไทยสามารถเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร สู่จุดหมายปลายทางทั่วโลก ด้วยด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777 และ แอร์บัส A380 ผ่านการต่อเครื่อง ณ ดูไบ ปัจจุบันเอมิเรตส์เปิดให้บริการ 6 เที่ยวบินต่อวันจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ 2 เที่ยวบินต่อวันจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตไปยังท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ

ผู้โดยสารชั้นพรีเมี่ยมของเอมิเรตส์ รวมถึงสมาชิก Platinum และ Gold Skywards ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับห้องรับรองสายการบินเอมิเรตส์ที่กว้างขวางและสะดวกยิ่งขึ้น ณ สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ผู้โดยสารจึงมั่นใจได้ว่าจะรู้สึกมีความสุขตั้งแต่เริ่มการเดินทางจนถึงจุดหมายปลายทาง