- เดินหน้าแผน 5 ปี ยกระดับกลุ่มธุรกิจ TCP ขึ้นชั้น “บริษัทไทยที่ยิ่งใหญ่บนเวทีโลก”
- ทุ่ม 10,000 ล้าน เสริมแกร่งตอกย้ำความเป็น “เฮ้าส์ออฟแบรนด์”
- เล็งเปิดโรงงานใหม่ หรือสำนักงานใหม่ในต่างประเทศอย่างน้อยปีละ 1 แห่งทุกปีใน 5 ปีข้างหน้า “ในฐานะคนไทยที่เป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลก เราได้นำธงชาติไทยไปโบกสะบัดในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก นี่จึงเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ องค์กรของเราและผู้บริหารจึงต้องทำงานอยู่บนมาตรฐานระดับโลกที่สูงที่สุด แผนธุรกิจ 5 ปีที่เราประกาศในวันนี้สะท้อนความมุ่งมั่นที่จะทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นองค์กรธุรกิจที่สามารถนำพาเกียรติยศชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยในเวทีโลก” นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP
กรุงเทพฯ (2 สิงหาคม 2560) – กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นองค์กรของคนไทย ที่เป็นเจ้าของ เป็นผู้ผลิต และเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ และซันสแนค ประกาศในวันนี้ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจ 5 ปี เพื่อให้กลุ่มธุรกิจ TCP ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจที่ได้รับการชื่นชมที่สุดของไทย พร้อมดันยอดขายให้โตขึ้น 3 เท่าเป็น 100,000 ล้านบาท
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเผยว่า “สินค้าที่เราผลิตในประเทศไทยถูกนำไปบรรจุอยู่ในกระป๋องกว่า 10,000 ล้านกระป๋องที่บริโภคกันในกว่า170 ประเทศทั่วโลก และในฐานะเจ้าของแบรนด์เรดบูลที่มีความเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่างแท้จริงแบรนด์แรกของไทย เราจึงเป็นผู้ถือธงชาติไทยบนเวทีโลกไปโดยปริยาย
นี่จึงเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่มาก องค์กรของเราและผู้บริหารจึงต้องทำงานอยู่บนมาตรฐานระดับโลกที่สูงที่สุด และตามแผนธุรกิจ 5 ปีที่ประกาศในวันนี้ เราจะเดินหน้าลงทุน 10,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของกลุ่มธุรกิจของเราให้แข็งแกร่ง”
“เม็ดเงินที่เราวางแผนลงทุนมากมายมหาศาลขนาดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นองค์กรธุรกิจที่สามารถนำพาเกียรติยศชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยในเวทีโลก”
“แผนการลงทุนมูลค่า 10,000 ล้านบาทของกลุ่มธุรกิจ TCP ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ การเสริมสร้างขีดความสามารถของฝ่ายบริหารและพนักงานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การขยายและพัฒนากำลังการผลิตและพอร์ทโฟลิโอของสินค้า และการเพิ่มฐานที่มั่นในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงอัตลักษณ์ใหม่ขององค์กรที่เราได้เปิดตัววันนี้ แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นกับอนาคตข้างหน้าของพวกเรา” นายสราวุฒิ กล่าว
เสริมสร้างขีดความสามาถของฝ่ายบริหาร และพนักงานกลุ่มธุรกิจ TCP ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นายสราวุฒิ กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจ TCP ได้เร่งเสริมสร้างขีดความสามารถของฝ่ายบริหารและพนักงานทุกระดับชั้นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่านโครงการฝึกอบรมบุคลากรที่เข้มข้น ประกอบด้วย โครงการฝึกอบรมระดับผู้บริหารสายงานธุรกิจกว่า 100 คน และระดับปฏิบัติการ ด้วยงบประมาณราว 100 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า
“นอกจากนี้ เรายังเปิดรับบุคลากรระดับบริหารที่เก่งที่สุดเข้ามาเสริมทีม เพื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรมองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับวิธีปฏิบัติแบบสากล ทีมผู้บริหารของเราหลายคนเคยผ่านการเรียนรู้วิธีการทำงานระดับโลกจากบริษัทเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคข้ามชาติที่ดีที่สุดมาแล้ว ซึ่งท่านเหล่านั้นได้นำเอาทักษะที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้เพื่อสร้าง
ความเจริญให้บริษัทของคนไทยและแบรนด์ไทย นอกจากนี้ ทักษะของพวกเขาเมื่อผสานเข้ากับผลงานที่ยอดเยี่ยมของผู้บริหารและพนักงานที่เป็นลูกหม้อของเราแล้ว ก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างระบบการทำงานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก” นายสราวุฒิ กล่าว
ขยายและพัฒนากำลังการผลิตและพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP
นายสราวุฒิ เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจ TCP มีโรงงานอยู่สองแห่งในประเทศไทย และมีโรงงานอีกสามแห่งในอินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน มีกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า 1 พันล้านลิตรต่อปี “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตระดับโลก ที่ทำการผลิตด้วยคุณภาพมาตฐานที่เข้มงวดสูงสุดและสามารถผลิตสินค้าป้อนได้ทุกตลาดทั่วโลก”
นอกจากนี้ เรามุ่งมั่นสร้างทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคในประเทศไทยและทั่วโลกได้ แผนการลงทุนของเราจะช่วยขยายกำลังการผลิต และพัฒนาขีดความสามารถของทีมวิจัยและพัฒนาให้ทัดเทียมบริษัทในระดับโลกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด
นายสราวุฒิ กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกของกลุ่มธุรกิจ TCP ถึงปีละกว่า 20,000 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจ TCP กลายเป็นผู้ส่งออกกระป๋องรายใหญ่ที่สุดของไทย
เพิ่มฐานที่มั่นของกลุ่มธุรกิจ TCP ในต่างประเทศ
นายสราวุฒิกล่าวว่า “ในอีกห้าปีข้างหน้า เราจะเปิดสำนักงานแห่งใหม่ หรือโรงงานแห่งใหม่ อย่างน้อยปีละ 1 แห่งใน 1 ประเทศ เรามีเป้าหมายที่จะทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็น “เฮ้าส์ออฟแบรนด์” ที่ทรงพลัง การมีสำนักงานในประเทศต่างๆ จะช่วยให้เราเข้าใจความต้องการ ความชอบ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศได้ดียิ่งขึ้น และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะตลาดได้ดีขึ้นกว่าเดิม”
“การลงทุนในระยะยาว และการทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อยู่ในดีเอ็นเอของเราอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ การทำการตลาดหรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจ” นายสราวุฒิ กล่าว
เรามีโอกาสที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ที่จะนำบริษัทของคนไทยไปวางไว้บนแผนที่โลก และเราเชื่อว่าเวลานี้เหมาะที่สุดที่จะลงทุนครั้งใหญ่เพื่อทะยานสู่อนาคต” นายสราวุฒิ กล่าว
กลุ่มธุรกิจ TCP มีพนักงานกว่า 5,000 คนในประเทศไทยและทั่วโลก ประกอบด้วยบริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าของกลุ่ม บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ซึ่งรับผิดชอบในการทำตลาดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม บริษัท ที.จี. เวนดิ้ง แอนด์ โชว์เคส อินดัสทรีส์ จำกัด เป็นเจ้าของและบริหารจัดการตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติสำหรับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ และ บริษัท เดอเบล จำกัด ดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ
ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยและทั่วโลกมี 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ รวม 8 แบรนด์ คือ กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังคือ กระทิงแดง เรดดี้ โสมพลัส และวอริเออร์ กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่คือ สปอนเซอร์ กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งก์ คือ แมนซั่ม กลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มคือ เพียวริคุ ผลิตภัณฑ์เมล็ดทานตะวันคือ ซันสแนค และ กลุ่มหัวเชื้อเครื่องดื่มคือ เรดบูลรสดั้งเดิม
ยอดขายรวมครึ่งปีแรกของกลุ่มธุรกิจ TCP ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 อยู่ที่ 14,600 ล้านบาท และคาดว่าถึงสิ้นปีกลุ่มธุรกิจ TCP จะมียอดขายรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลของกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ที่ www.tcp.com