กรุงเทพฯ 11 สิงหาคม 2560 – บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) แนะผู้เดินทางและนักท่องเที่ยว ใช้บริการ ตู้เอพีเอ็ม หรือเครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ (Automated Postal Machine: APM) ส่งสิ่งของที่ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินไปยังปลายทางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยอัตราราคาบริการอัตราเหมาจ่าย โดยนำร่องติดตั้ง ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นแห่งแรก จำนวน 2 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าพื้นที่ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ (ตม.) ฝั่งตะวันออก (Zone 2) และบริเวณท้าย Row D M T B ฝั่งทิศตะวันออก ชั้น 4 พร้อมให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวแล้วตั้งแต่วันนี้ตลอด 24 ชั่วโมง
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง และนักท่องเที่ยว ในกรณีที่มีสิ่งของที่ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน อาทิ ของเหลวที่มีปริมาณมากกว่า 100 มิลลิลิตร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้พัฒนาบริการ ตู้เอพีเอ็ม หรือ เครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ(Automated Postal Machine: APM) เครื่องให้บริการรับฝากส่งสิ่งของทั้งในและต่างประเทศ ด้วยบริการ Post & Fly ที่ผู้ใช้บริการสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงชั่งน้ำหนักสิ่งของซึ่งต้องไม่เกิน 500 กรัม เลือกปลายทางที่จะฝากส่งและชำระเงิน เครื่องจะจำหน่ายซองกันกระแทกขนาด C4 ที่มีข้อความ “Post & Fly” กำกับอยู่ที่มุมซอง พร้อมสติ๊กเกอร์สำหรับประทับบนซองแทนตราประทับประจำวัน จากนั้นจึงฝากส่งโดยให้บรรจุสิ่งของในซองที่ได้จากเครื่องเท่านั้น ผนึกสติ๊กเกอร์รอยประทับไปรษณียากรให้เรียบร้อย และวางซองดังกล่าวลงในช่องรับฝาก
นางสมร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ใช้บริการสามารถฝากส่งสิ่งของผ่านเครื่องให้บริการดังกล่าวถึงปลายทางทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ทั่วโลก โดยการฝากส่งที่มีปลายทางในประเทศ ไปรษณีย์ไทย จะจัดส่งด้วยบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) มีอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายในราคา 50 บาทต่อชิ้น สำหรับปลายทางต่างประเทศจะได้รับการจัดส่งด้วยบริการไปรษณีย์ลงทะเบียนระหว่างประเทศ อัตราค่าบริการจะจัดแบ่งตามโซนหรือทวีป ได้แก่ ทวีปเอเชีย ค่าบริการ 400 บาท ทวีปยุโรป แอฟริกา กลุ่มโอเชียเนีย และโซนอเมริกา ค่าบริการ 450บาท โดยปัจจุบันไปรษณีย์ไทยได้นำร่องติดตั้งเครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นแห่งแรก จำนวน 2 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าพื้นที่ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ (ตม.) ฝั่งตะวันออก (Zone 2) และบริเวณท้าย Row D MTB ฝั่งทิศตะวันออก ชั้น 4 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสะดวกมากขึ้น