จูเนียร์ เอ็นบีเอ ไทยแลนด์ 2017 โดยโฟร์โมสต์ ประกาศผลคัดเลือก 16 เยาวชนเข้าร่วมทีมจูเนียร์ เอ็นบีเอ ออลสตาร์ ไทยแลนด์ เพื่อเดินทางไปทัศนศึกษาสัมผั
จูเนียร์ เอ็นบีเอ ไทยแลนด์ โดยโฟร์โมสต์ ดำเนินโครงการเป็นปีที่ 4 เปิดอบรมกีฬาบาสเก็ตบอลให้แก่
สำหรับปีนี้ เอ็นบีเอได้นำประสบการณ์บาสเก็
โครงการการจูเนียร์ เอ็นบีเอ ไทยแลนด์ โดยโฟร์โมสต์ สิ้นสุดลงด้วยความสำเร็จในการถ่ายทอดทักษะกีฬาบาสเก็ตบอลไปสู่เยาวชนชายและหญิงกว่า 10,000 คน ใน 200 โรงเรียน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ กรุงเทพ และตรัง นอกจากนี้ ยังได้พัฒนากิจกรรม “Train the Trainer” หรือคลินิกอบรมผู้ฝึกสอน ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สถาบันการพลศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ฝึกสอนและสร้างเครือข่ายในการถ่ายทอดความรู้สู่นักกีฬามากกว่าหมื่นคนด้วยเช่นกัน
โครงการจูเนียร์ เอ็นบีเอ ฝึกสอนทักษะการเล่นบาสเก็ตบอลและคุณค่าหลักของเกมกีฬาในระดับพื้นฐาน เพื่อช่วยเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ในกีฬาบาสเก็ตบอลสำหรับผู้เล่น ผู้ฝึกสอน และผู้ปกครอง โดยตลอดซีซั่น 2559 – 2560 เอ็นบีเอได้ขยายโครงการไปสู่เยาวชนกว่า 18 ล้านคน ใน 53 ประเทศทั่วโลก
สามารถติดตามกิจกรรมจูเนียร์ เอ็นบีเอได้ที่ www.facebook.com/jrnbathailand หรือ www.jrnba.asia/thailand และข้อมูลต่างๆ ของ NBA ที่ www.nba.com หรือเพิ่มเพื่อน @nba_global ผ่านทาง NBA’s official account ทาง LINE
เกี่ยวกับเอ็นบีเอ
เอ็นบีเอเป็นกีฬาสากลและธุรกิจสื่อที่เกี่ยวข้องกับ 3 ลีกอาชีพ ได้แก่ National Basketball Association, the Women’s National Basketball Association และ NBA Development League โดยลีกเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของเกมกีฬาและโปรแกรมต่างๆ ใน 215 ประเทศ ใน 49 ภาษา นอกจากนี้ มีร้านค้าเอ็นบีเอกว่า 125,000 ร้านค้า ใน 100 ประเทศ 6 ทวีปทั่วโลก ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลในปี 2016-2017 เอ็นบีเอมีผู้เล่นระดับนานาชาติจำนวน 113 คน จาก 41 ประเทศ เอ็นบีเอดิจิตอล รวมทั้ง NBA.com และแอพพลิเคชั่น NBA รวมถึงเอ็นบีเอทีวี ประสบความสำเร็จในด้านผู้ชมในช่วงฤดูกาลการแข่งขันในปี 2015-2016 เอ็นบีเอ สร้างสร้างชุมชนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยยอด LIKE ว่า 1.3 หมื่นล้านครั้ง และผู้ติดตามและยอด ผ่านแฟลตฟอร์มลีค ทีมกีฬาและผู้เล่นทั่วโลก เอ็นบีเอให้ความสำคัญกับสังคมโดยได้ทำงานร่วมกับองค์กรที่สนับสนุนเยาวชนต่างๆ ทั้งในด้านการพัฒนาการศึกษา เยาวชน ครอบครัว และสุขภาพ ผ่านโครงการ NBA Cares
เกี่ยวกับ รอยัล ฟรีสแลนด์คัมพิน่า
แต่ละวัน รอยัล ฟรีสแลนด์คัมพิน่า ผลิตอาหารที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเพื่อตอบสนองผู้บริโภคหลายร้อยล้านคนทั่วโลก ฟรีสแลนด์คัมพิน่า มีรายได้ 10,300 ล้านยูโร ต่อปี เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อบริโภคและเพื่อวิชาชีพ รวมถึงส่วนผสมและผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จเพื่อการผลิตสำหรับโรงงานผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับทารกและเด็กวัยเดิน อุตสาหกรรมอาหารและเภสัชกรรมทั่วโลกด้วยเช่นกัน ฟรีสแลนด์คัมพิน่า มีสำนักงานใน 32 ประเทศ พร้อมพนักงานกว่า 20,000 คน โดยมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายมากกว่า100 ประเทศ ฟรีสแลนด์คัมพิน่า เป็นของ Zuivelcoöperatie FrieslandCampina U.A. แต่เพียงผู้เดียว โดยทำงานร่วมกับสมาชิกเกษตรกรฟาร์มนม19,487 ราย ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมัน และเบลเยี่ยม ถือเป็นความร่วมมือด้านการผลิตนมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่www.frieslandcampina.com
เกี่ยวกับฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) เป็นผู้นำแบรนด์คุณภาพในอุตสาหกรรมอาหารที่ทำจากนม โดยส่งมอบผลิตภัณฑ์สู่ผู้บริโภคชาวไทยภายใต้ตราสินค้า “โฟร์โมสต์” ตราสินค้าที่น่าเชื่อถือมากกว่า 60 ปี ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) มุ่งมั่นในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเพื่อให้บรรลุหน้าที่ดังกล่าว บริษัทได้สร้างระบบตรวจสอบคุณภาพขั้นสูงที่ควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยความรู้และประสบการณ์ ทั้งนี้ยังมีอุปกรณ์ในการจัดการคุณภาพมากมาย อาทิ การควบคุมและการประกันคุณภาพที่ได้มาตรฐานในระดับนานาชาติ ระบบจัดการคุณภาพชั้นนำรวมถึง หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) ระบบการการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร (HACCPs) ISO 9001:2000และ ISO 22000:2005 ซึ่งถุกนำมาปรับใช้ในกระบวนการบริหารจัดการของบริษัท
เกี่ยวกับ แคมเปญ Drink.Move.BeStrong
Drink.Move.BeStrong เป็นกิจกรรมแบบบูรณาการครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อสร้างกิจกรรมแอคทีฟและไลฟสไตล์เพื่อการมีสุขภาพที่ดีของเยาวชนผ่านการเล่น กีฬา และโภชนาการที่เหมาะสม โดยแคมเปญนี้ริเริ่มขึ้นจากผลการศึกษาด้านโภชนาการของฟรีสแลนด์คัมพิน่าใน 4ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เวียดนาม และประเทศไทย เพื่อศึกษาด้านโภชนาการและการดื่มนมของเด็กที่มีอายุระหว่าง 6 เดือน ถึง 12 ปี โดยแคมเปญที่ได้รับความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ได้ดำเนินกิจกรรมหลากหลายช่องทางเพื่อกระตุ้นให้เยาวชนทั่วภูมิภาคดื่มนม 1 แก้ว ต่อวันและออกกำลังกายกลางแจ้ง 1 ชั่วโมงต่อวัน แคมเปญระดับภูมิภาคได้ดำเนินกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการบริจาคนมให้แก่โรงเรียน โปรแกรมการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและโภชนาการ และโครงการจูเนียร์ เอ็นบีเอ