สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีกับภารกิจการเดินทางจากประเทศไทยถึงประเทศภูฏานเป็นครั้งแรก ภายใต้โครงการ “คาราวานสานสัมพันธ์ไทย-ภูฏาน” ภายใต้แนวคิด “Bhutan-Thailand Friendship Drive – Connect People of the Two Kingdoms by Land” เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ภูฏาน และวโรกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 จึงถือเป็นโอกาสพิเศษในการจารึกประวัติศาสตร์การเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ของทั้งสองราชอาณาจักร และถือเป็นครั้งแรกที่จัดให้มีการเดินทางเส้นทางคาราวานรถยนต์จากประเทศไทยไปยังภูฏาน อันเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การเดินทางเริ่มต้นขึ้นตั้งเเต่วันที่ 21-28 มิถุนายน 2562 ใช้ระยะเวลาเดินทาง 8 วัน ผ่านพรมแดน 4 ประเทศ ระยะทางรวม 3,750 กิโลเมตร เริ่มต้นปล่อยขบวนคาราวานที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปทาง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก – เข้าเมืองตองอู เมืองตามู เมียนมา – เมืองโกหิมา เมืองกูวาหาติ ประเทศอินเดีย และไปสิ้นสุดที่เมืองพันท์โชลลิง เมืองทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน ซึ่งตลอดเส้นทางคณะเดินทาง 21 คน ประกอบด้วย สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏานประจำประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยที่เกี่ยวข้อง เดินทางโดยรถยนต์ TR Transformer จำนวน 6 คัน ตลอดเส้นทางที่ได้ขับรถเคลื่อนผ่านในแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น คณะเดินทางได้มีโอกาสแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำประเทศต่างๆ อาทิเช่น วัดแรกที่ได้แวะสักการะขอพรระหว่างการเดินทางออกจาก เมืองตองอู มุ่งหน้าสู่ เมืองโมนยวา เมียนมา คือที่เจดีย์ชเวซานดอว์ ที่มีความหมายว่าเส้นผมทองของพระพุทธเจ้า ที่นี่ไม่ว่าจะเมืองไหนก็เต็มไปด้วยเจดีย์ขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้างลักษณะคล้ายกับเจดีย์ชะเวดากอง กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากการเดินทางทางเครื่องบินเหมือนปกติ ทีมคณะเดินทางจะได้ชื่นชมธรรมชาติจากทั้งสองข้างทาง ตลอดระยะเส้นทางที่ขับรถผ่านในเเต่ละประเทศ รวมถึงได้เห็นวัฒนธรรมการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันออกไป
บนเส้นทางสุดโหดบนถนนลูกรัง ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยบรรยากาศอันอบอุ่น น้ำใจของผู้คนท้องถิ่นมีให้เห็นตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำซึ่งแทบทุกบ้านเต็มใจให้เข้า มีร้านโชว์ห่วย ที่พอจะให้ซื้อของกินของใช้ได้บ้างระหว่างทาง
คณะเดินทางได้มีโอกาสเห็นการทำมาหากินและการประกอบอาชีพของคนส่วนใหญ่ในแต่ละท้องถื่น โดยหลักยังมุ่งไปทางเกษตรกรรม ซึ่งเห็นได้ชัดจากทัศนียภาพโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นนาข้าวขั้นบันได หรือแม้แต่ไร่ข้าวโพดซึ่งปลูกเรียงรายสลับซับซ้อนตามเทือกเขา เห็นเป็นทิวยาวสุดลูกหูลูกตา บ้านเรือนส่วนใหญ่ที่ปลูกทำมาจากอิฐทำมือหรือไม่ก็ไม้ที่ไม่ใช่ไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่เท่าคนโอบเหมือนพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศไทย
ส่วนเรื่องอาหารการกิน เราได้ทานอาหารพื้นบ้านหรืออาหารท้องถิ่นจากประเทศต่างๆ และถือเป็นครั้งแรกที่ได้ลองทานอาหารพม่า อาหารอินเดีย หลายอย่างรสชาติใกล้เคียงกับคนไทย ส่วนรสชาติของอาหารภูฏานนั้นหลายคนบอกว่ารสชาติคล้ายอาหารจีนมีรสเผ็ดคล้ายกับที่คนไทยกินอยู่นั่นเอง
ธรรมชาติของประเทศภูฏานสวยงามสมคำร่ำลือ สวยเหมือนเมืองในฝัน ไม่ต้องไปไกลถึงดินแดนอีกครึ่งซีกโลก เทือกเขาที่นี่สลับซับซ้อนมีบ้านปลูกลดหลั่นกันไปตรงกลางเป็นสายน้ำไหลทำให้นึกถึงชุมชนเล็กๆ ริมน้ำที่อาศัยร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เมืองสวยเหมือนเมืองในเทพนิยาย ขบวนคาราวานรถยนต์ วิ่งฝ่าสายหมอกไปตามเส้นทางที่รัดเลาะอยู่ริมเขาจนกระทั่งมาถึงเมืองก็มีการต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี
การเดินทางระยะทาง 3,750 กิโลเมตร 4 ประเทศ เป็นระยะเวลา 8 วัน จากประเทศไทย เข้าเมียนมาร์ ผ่านอินเดีย มาสิ้นสุดที่ภูฏาน ตั้งแต่วันที่ 21-28 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา โดยตลอดเส้นทางการเดินรถเพื่อเปิดเส้นทางใหม่ คณะคนไทยได้เห็นการพัฒนาเส้นทางคมนาคมของทุกประเทศ และยังได้เห็นวิถีชีวิตการทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม รวมถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์บนเส้นทางบกที่ขับผ่าน ซึ่งโครงการคาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์ไทย-ภูฏาน ที่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในครั้งนี้ นับว่าประสบความสำเร็จใน การเสริมสร้างมิตรภาพและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกทั้งยังได้สร้างการรับรู้ถึงเส้นทางเชื่อมโยงทางบกระหว่างประเทศ ไทย-เมียนมา-อินเดีย-ภูฏาน ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ ในอนาคตอันใกล้นี้ได้เป็นอย่างดี
ติดตามรายละเอียดโครงการได้ที่ www.ThailandBhutanTourism.com