Airbnb และกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ผนึกกำลังครั้งใหญ่ ขับเคลื่อนท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถี สู่สายตาทั่วโลก นำร่องแคมเปญใน 4 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ เชียงใหม่ สมุทรสงคราม และเลย พร้อมแสดงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์บนแพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก โดย Airbnb และกรมการพัฒนาชุมชนยังเฟ้นหาชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศเพื่อร่วมเป็นผู้จัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญดังกล่าวต่อไปจนถึงสิ้นปี

Airbnb แพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) สังกัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศและนำเสนอท่องเที่ยวชุมชนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จักผ่านแคมเปญ “เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทยสู่ตลาดโลก ต่อยอดแคมเปญนอกเหนือจากเมืองใหญ่” หรือ Meet Thailand’s Villages, Beyond Big Cities initiative” โดยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้เดินตามรอยความสำเร็จของแคมเปญทางการตลาด “นอกเหนือจากเมืองใหญ่” ที่ Airbnb เปิดตัวในประเทศไทยปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการโปรโมทจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ที่ชูโรงท่องเที่ยวชุมชนอย่างจังหวัดบุรีรัมย์ และสระบุรี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า “แพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง Airbnb ช่วยเปิดโอกาสให้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ได้แสดงถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมชุมชนอันโดดเด่นของประเทศไทยสู่สายตาคนทั่วโลก ในนามของกรมการพัฒนาชุมชนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกัAirbnb ซึ่งเราจะยังเดินหน้าเสริมแกร่งชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เพื่อช่วยให้ทุกชุมชนได้รับประโยชน์จากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง”

นางอานิต้า รอธ ผู้อำนวยการด้านการวางแผนกลยุทธ์และนโยบาย Airbnb กล่าวว่า “Airbnb มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดทำแคมเปญนี้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งเปิดโอกาสให้ชุมชนแต่ละท้องถิ่นได้นำเสนอวิถีชีวิต และวัฒนธรรมในแต่ละท้องที่ให้กับคนทั่วโลกผ่านเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ของ Airbnb โดยความร่วมมือในครั้งนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แม้การท่องเที่ยวเดินทางทั่วโลกได้ถูกจำกัด แต่ Airbnb ยังคงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและชุมชนเพื่อสร้างสรรค์ และร่วมกันหาทางออกเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยมุ่งกระจายผลประโยชน์ไปยังชุมชนทั่วประเทศ”

ขับเคลื่อนผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวไปยังชุมชนท้องถิ่น

เฟสแรกของแคมเปญ “เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทยสู่ตลาดโลก” จะเป็นการนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ โดยตัวแทนของชุมชนท้องถิ่นที่มีความหลากหลายของประเทศไทย ผ่านทาง เอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ ของ Airbnb ซึ่งได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตัวมา โดยเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ เป็นช่องทางที่ช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นสร้างรายได้ จากการที่นักเดินทางนับล้านทั่วโลกสามารถเข้าร่วมเปิดประสบการณ์ผ่านออนไลน์ได้จากที่บ้าน ในช่วงที่สถานการณ์ของการท่องเที่ยวเดินทางยังไม่กลับเป็นปกติ

Airbnb ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกรมการพัฒนาชุมชนเพื่อสรรหาชุมชนท้องถิ่นมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ โดยชุมชนท้องถิ่น 5 แห่งแรกที่จะนำร่องการนำเสนอท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถีสู่ตลาดโลก ได้แก่

เอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ที่จัดโดยชุมชนนวัตวิถีไทยเหล่านี้จะเป็นรายการล่าสุดของเอ็กซ์พีเรียนซ์กว่า 700 รายการทั่วโลก หลังจากที่ Airbnb เปิดตัวเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

เสริมแกร่งชุมชนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

นอกเหนือจากการโปรโมทการท่องเที่ยวในชุมชนแล้ว ความร่วมมือระหว่าง Airbnb กับกรมการพัฒนาชุมชน ยังรวมถึงการผลักดันและเสริมศักยภาพให้กับชุมชนท้องถิ่นให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเป็นการดำเนินแคมเปญอย่างต่อเนื่อง Airbnb และกรมการพัฒนาชุมชน ยังคงดำเนินการคัดเลือกชุมชนในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยที่สามารถโปรโมทวิถีชุมชนจากการจัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Airbnb จนถึงสิ้นปีนี้

ความร่วมมือระยะยาวนี้รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ทั้งในแบบออฟไลน์และออนไลน์ (e-learning) ผ่านแหล่งข้อมูลออนไลน์ ซึ่งจัดทำเป็นภาษาไทยเพื่อให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่ผู้จัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ในชุมชนท้องถิ่น นอกจากนั้น Airbnb จะจัดอบรมเจ้าหน้าที่ของกรมการพัฒนาชุมชนและนักการตลาดของกรมฯ ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งให้ความช่วยเหลือชุมชนที่ต้องการโปรโมทและขายสินค้า OTOP บนช่องทางออนไลน์ และยังสามารถต่อยอดความรู้นำไปสร้างสรรค์กิจกรรมและพัฒนาชุมชนเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวต่อไปได้อีกด้วย

ทั้งนี้ รายงานวิจัยล่าสุดของอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Oxford Economics) ชี้ว่า Airbnb มีส่วนช่วยสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไทยในปี 2562 ถึง 4.37 หมื่นล้านบาท และสำหรับยุคหลังโควิด-19 การท่องเที่ยวชุมชนอันมีเอกลักษณ์บนแพลตฟอร์ม Airbnb จะเป็นพลังสำคัญในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทย และการเป็นพันธมิตรกับกรมการพัฒนาชุมชนครั้งนี้นับเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ Airbnb ในการทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทย ชุมชนท้องถิ่น เจ้าของที่พักและผู้จัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ รวมถึงนักเดินทางทุกคนอีกด้วย