นางรัชนี โพธิสัตยา พัฒนาการจังหวัดสมุทรสาครกล่าวว่า ตอนนี้จังหวัดสมุทรสาครได้แบ่งเส้นทางท่องเที่ยวออกเป็น 3 เส้นทาง คือ 1 เส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ 2 เส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 3 เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งแต่ละเส้นทางมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่จะไปเที่ยวได้ จะมาเดี่ยวหรือจะมาเป็นคู่หรือจะยกครอบครัวกันมาจังหวัดสมุทรสาครตอบโจทย์นี้ได้
ยกตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พัฒนาการจังหวัดสมุทรสาครบอกว่าสายบุญไม่ควรพลาดมาสักการะพระพุทธสิหิงค์ ซี่งมีอยู่ 4 องค์ทั่วประเทศที่วัดโคกขาม ซึ่งเป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หรือจะไปดูทุ่งนาเกลือที่หมู่บ้านสหกรณ์ 1 ที่นี่จะเห็นนาเกลือขาวโพลนบนเนื้อที่กว่าพันไร่ ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤกษภาคม และยังจะได้ชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเกลือภายใต้แบรนด์ “บ้านย่าสปาเกลือ”เช่นสบู่เกลือ ผงยาสีฟัน ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชอบวิถีชีวิตประมงก็มาได้ที่หมู่บ้านชายทะเลรางจันทร์ จะได้เรียนรู้การทำประมงพื้นบ้านและเช็คอินที่สะพานเขียว ซึ่งเป็นสะพานไม้ทาสีเขียวยื่นยาวลงไปในทะเลเหมาะแก่การชมวิวทิวทัศน์
เส้นทางท่องเที่ยวที่สองเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิต ไปกันที่บ้านดอนไก่ดี กระทุ่มแบน ที่นี่จะมีถนนสายเบญจรงค์ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชม ลงมือวาดลวดลาย และเลือกซื้อเครื่องเบญจรงค์เป็นของฝาก แล้วไปกราบหลวงพ่อรุ่งที่วัดท่ากระบือ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัดสมุทรสาครไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือจะไปที่หมู่บ้านคลองใหญ่เพื่อดูวิถีชีวิตไทยรามัญ สักการะหลวงพ่อสาย ที่หมู่บ้านกระโจมทอง ใครที่ชอบล่องเรือดูชมชุมชนโบราณอายุกว่า 150 ปีก็ไปกันที่บ้านท่านัด
เส้นทางที่สามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดสมุทรสาครขึ้นชื่อเรื่องพืชผลทางการเกษตรเป็นต้นทุนเดิมอยู่แล้ว ชอบสวนกล้วยไม้ หรือต้องการดูสวนฝรั่งและเลือกซื้อมะพร้าวเป็นของฝากก็ไปกันได้ที่บ้านวังนกไข่ แต่ถ้าชอบเมล่อนก็ไปที่บ้านสวนพิศิษฐ ที่นี่จะมีเมล่อนหวานกรอบไว้คอยต้อนรับและถ่ายรูปสวยๆลงเขียล หรือถ้าจะไปดูสวนผลไม้ที่มีทั้งฝรั่ง มะพร้าว กล้วย แก้วมังกรและมัลเบอร์รี่ก็ไปได้บ้านโรงปูน
“เรากำลังเปลี่ยนวิธีคิดในการดำเนินงาน OTOP จากเมื่อก่อนที่ผลักดัน OTOP ออกจากชุมชน มาสู่การสร้างรายได้ด้วยการขายสินค้า OTOP อยู่ในชุมชน โดยเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวภายในชุมชน ผ่านกระบวนการ 5 ขั้นตอน ได้แก่
1. พัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
2. พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวก
3. พัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว
4. เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวแต่ละท้องถิ่น
5. ส่งเสริมการตลาดชุมชนท่องเที่ยว”
“อยากขอเชิญนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาคร เพราะตอนนี้เราได้แบ่งเส้นทางท่องเที่ยวให้ทุกคนเลือกตามความพอใจ ใครจะขอบแบบไหน แนวไหน เข้ามาเที่ยวกันได้ อีกทั้งเมื่อเข้าไปเที่ยวแล้วก็จะได้ซื้อของกิน ของฝาก สินค้าจากชุมชนเหล่านั้นติดไม้ติดมือ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ที่สำคัญจะได้ช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ย้ำอีกครั้งว่าสมุทรสาครของเราไม่ได้มีดีแค่อาหารทะเล แต่เรามีเส้นทางท่องเที่ยวให้เลือกถึง 3 เส้นทาง อีกทั้งจังหวัดสมุทรสาครของเราก็ใกล้กรุงเทพนิดเดียว มากันได้สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน เช้าไปเย็นกลับ ขอเชิญทุกคนมาเที่ยวจังหวัดสมุทรสาครกันนะคะ”นางรัชนีกล่าว