กรุงเทพฯ 27 พฤศจิกายน 2560 – บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เดินหน้าขยายจุดติดตั้งตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ หรือตู้ iBox ณ ที่ทำการไปรษณีย์ 28 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการให้สามารถรับพัสดุได้ตามเวลาที่ต้องการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ไม่ค่อยอยู่บ้านและไม่สะดวกรับพัสดุ/สิ่งของที่บ้าน ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย คาดการณ์ว่าการติดตั้งตู้ iBox ที่ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการได้รับสิ่งของที่ฝากส่งตามเวลาที่ต้องการได้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังมีแผนขยายการติดตั้งตู้ iBox ไปยังหัวเมืองทั่วประเทศเร็วๆ นี้
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า สำหรับตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ หรือ iBox นั้น ไปรษณีย์ไทย ได้ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในการวิจัยและพัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้บริการที่ไม่สะดวกรับพัสดุที่บ้าน ซึ่งตู้ iBox นี้ คือตู้ล็อกเกอร์ที่สามารถนำจ่ายพัสดุให้แก่ผู้รับ โดยมีระบบตรวจสอบยืนยันความถูกต้องด้วยรหัสผ่าน (One time password หรือ OTP) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการที่ไม่อยู่บ้าน หรือไม่สะดวกรับพัสดุที่บ้านให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น พร้อมให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ณ ที่ทำการไปรษณีย์ 28 แห่งทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ ที่ทำการไปรษณีย์หลักสี่ สามเสนใน บางซื่อ จตุจักร บางบัวทอง บางกรวย บางใหญ่ ไทรน้อย ลาดพร้าว รามอินทรา คลองจั่น มีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก ปทุมธานี คลองหลวง รังสิต ลำลูกกา บางขุนเทียน ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน สำเหร่ บางกอกน้อย พระโขนง อ่อนนุช สมุทรปราการ บางปู และบางพลี
นางสมร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการตู้ iBox สามารถใช้บริการง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1) แจ้งผู้ฝากส่งให้จ่าหน้าถึงผู้รับที่ตู้ iBox ที่จะรับพัสดุ 2) รอรับข้อความ SMS ยืนยันจากทางไปรษณีย์ไทย และ 3) เข้าไปรับพัสดุที่ตู้ iBox ด้วยการเสียบบัตรประชาชนและกดรหัส OTP ที่ได้รับ ซึ่งผู้รับบริการต้องมารับพัสดุภายใน 48 ชั่วโมง โดยหากเกินกำหนดพัสดุจะถูกนำกลับมารอจ่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ปลายทาง โดยตู้ iBox ถูกออกแบบมาให้ใช้บริการง่าย สะดวก และปลอดภัย มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด สามารถตรวจสอบได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งบริการตู้ iBox จะรองรับเฉพาะสิ่งของแบบมีหลักฐาน ได้แก่ ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ไปรษณีย์แบบลงทะเบียน พัสดุในขนาดที่สามารถใส่ในตู้ได้เท่านั้น โดยไปรษณีย์ไทยคาดว่าการขยายจุดติดตั้งตู้ iBox ครั้งนี้จะสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการได้รับสิ่งของที่ฝากส่งตามเวลาที่ต้องการได้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทยยังคงมุ่งมั่นพัฒนารูปแบบการบริการรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภค พร้อมยกระดับการปฏิบัติการให้เป็นระบบอัตโนมัติ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าสู่การให้บริการเพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้บริการ ตามหลักแนวคิด 5D2S อย่างต่อเนื่อง นางสมร กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://ibox.thailandpost.co.th หรือสอบถามข้อมูลการใช้บริการติดต่อTHP Contact Center 1545