สมาคมการจัดการของเสีย (ประเทศไทย) เปิดตัวโครงการ SEA circular in Thailand เพื่อแสดงเจตจำนงและความมุ่งมั่นที่จะลดการปนเปื้อนของขยะพลาสติกสู่ทะเล

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ชุดโครงการ SEA circular ซึ่งริเริ่มโดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme) หรือ UNEP ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรสวีเดน

ในแต่ละปี ขยะพลาสติกราวแปดล้านตันรั่วไหลลงสู่ทะเลและมหาสมุทร มลพิษจากพลาสติกเหล่านี้ส่งผลกระทบทางตรงอย่างรุนแรงต่อสัตว์น้ำและสภาพแวดล้อม มีการคาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2593 จะมีปริมาณพลาสติกในมหาสมุทรมากกว่าจำนวนปลา สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศของโลกอย่างประเมินค่ามิได้

เพื่อที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงความมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบจากพลาสติก (พลาสติกฟุตปริ้นท์)) สมาคมฯ และหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ จึงได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ณ โรงแรมสุโกศล ในวันนี้

หนึ่งในเป้าหมายหลักสำคัญของโครงการ SEA circular in Thailand คือการลดการใช้พลาสติกและเพิ่มการนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด สมาคมฯ จะดำเนินโครงการนี้ร่วมกับบริษัทและองค์กรต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อช่วยศึกษาการใช้และทิ้งพลาสติกในปัจจุบัน บ่งชี้โอกาสในการลดผลกระทบ และสนับสนุนการลงมือปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

สมาคมฯ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัทและองค์กรต่างๆ จากหลายภาคส่วน เช่นอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ผลิตพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ ภาคบริการ และภาคการศึกษา ประกอบไปด้วย บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน), บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน), บริษัท คอสมอสบริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน), โรงแรม เดอะ สุโกศล, โรงแรมซิกเซ้นส์ รีสอร์ท สปาร์, บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด, บริษัท ซีเท็กซ์อินดัสตรีคอร์ปอเรชั่น จำกัด, เทศบาลตำบลเวียงเทิง จ.เชียงราย, มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, โรงเรียนวัดสร้อยทอง และโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย

บริษัทและองค์กรต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและยินดีเป็นหน่วยงานนำร่องเพื่อร่วมศึกษาและร่วมกันพัฒนาแนวทางการลดพลาสติกฟุตปริ้นท์ ตามแนวทางของ The Ocean Recovery Alliance (ORA) องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและฮ่องกง เป็นผู้ให้ร่วมให้การสนับสนุนวิธีการศึกษาและการลดพลาสติกฟุตปริ้นท์ในโครงการนี้

มลพิษจากขยะพลาสติกในทะเล เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก และเราต้องลงมือแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน สมาคมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัทและองค์กรต่างๆ ที่ร่วมโครงการในครั้งนี้จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยต่อไปดร.จินดารัตน์ เทเลอร์ ประธานโครงการฯ และอุปนายกสมาคมฯ กล่าว

การเรียนรู้ร่วมกันและการแลกเปลี่ยนแนวความคิดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของโครงการนี้และเราจะมีการจัดงานประชุมสัมมนาเพิ่มเติมเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวในช่วงระยะเวลาของโครงการนี้ คุณภัทรพล ตุลารักษ์ ผู้จัดการโครงการฯ และเลขาธิการสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติม

ศ.ดร. อรทัย ชวาลภาฤทธิ์ นายกสมาคมฯ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “โครงการนี้มีความสำคัญสำหรับการจัดการสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในประเทศไทย และดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวโครงการ SEA circular in Thailand ในวันนี้ เนื่องจากในปีที่ผ่านมาเราได้พยายามดำเนินงานกันไปแล้วบางส่วนในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

เกี่ยวกับสมาคมการจัดการของเสีย (ประเทศไทย)

สมาคมการจัดการของเสีย (ประเทศไทย) หรือ Solid Waste Management Association Thailand (SWAT) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2558 โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในวงการด้านการจัดการของเสียและทรัพยากรและผู้ที่ตระหนักถึงปัญหาด้านของเสีย จากหลากหลายสาขาอาชีพในประเทศไทยทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา และประชาชนทั่วไป วัตถุประสงค์หลักของสมาคมฯ ประกอบไปด้วย

  • พัฒนาและสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการของเสีย
  • ยกระดับมาตรฐานและจรรยาบรรณของหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ในการจัดการของเสียโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน
  • ประสานงานและส่งเสริมความร่วมมือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมทั้งสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคเอกชนและภาคประชาชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ในการขับเคลื่อนกระบวนการแก้ไขปัญหาด้านการจัดการของเสีย

ส่งเสริมและเผยแพร่องค์ความรู้ทางวิชาการด้านการจัดการของเสียต่อสาธารณชนและสร้างจิตสำนึกในการร่วมมือแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน