3 เทรนด์หลักที่น่าสนใจ – เทคโนโลยีจะก้าวหน้ากว่าเดิมเพื่ อการเดินทางที่สะดวกสบาย,
ตัวเลือกสำหรับการท่องเที่ยวเชิ งนิเวศจะมีมากขึ้น, เกียวโตจะกลายเป็นจุดหมายยอดนิ ยม
ผลการสำรวจของอโกด้า แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก (https://www.agoda.com/?site_id=1811392) เผย 3 ‘วิถีการท่องเที่ยว’ ที่จะเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทางสำหรับทศวรรษ 2020 ได้แก่ 1.) แอปพลิเคชันเดียวสำหรับทุกความต้องการในการเดินทาง 2.) การเดินทางโดยไม่ใช้พาสปอร์ต และ 3.) การเช็คอินผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชันการท่องเที่ยวที่ล้ำสมัย และสัญญาณการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่ดีขึ้น ส่งผลให้นักเดินทางมีความคาดหวังเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะนักเดินทางชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดในประเทศอินโดนีเซีย (56%) ประเทศสิงคโปร์ (54%) ประเทศมาเลเซีย (53%) ไต้หวัน (50%) ประเทศฟิลิปปินส์ (48%) และประเทศไทย (48%) เห็นพ้องต้องกันว่า ‘วิถีการท่องเที่ยว’ ทั้ง 3 อย่างที่กล่าวมานั้น จะกลายเป็นเรื่องปกติในการเดินทางในทศวรรษหน้า ซึ่งเมื่อเทียบกับในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาแล้ว มีนักเดินทางเพียง 1 ใน 3 (33%) เท่านั้นที่เห็นด้วย
1 ใน 2 ของนักเดินทางชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดหวังว่าจะเช็คอินเข้าที่พักผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือได้ เพื่อไม่ต้องเสียเวลาเข้าคิวเช็คอินที่ล็อบบี้ เพราะสามารถดาวน์โหลดคีย์การ์ด และเช็คอินเข้าห้องพักได้ทันที โดยนักเดินทางจากสิงคโปร์ (54%) ฟิลิปปินส์ (53%) มาเลเซีย (58%) และไทย (49%) เป็น 4 ชาติที่คาดหวังให้เทรนด์แห่งนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวนี้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากที่สุด
ในส่วนของเทรนด์การเดินทางโดยไม่ใช้พาสปอร์ตนั้น นักเดินทางจากสิงคโปร์ (50%) เวียดนาม (47%) ฟิลิปปินส์ (45%) จีน (44%) และออสเตรเลีย (41%) คือ 5 ประเทศที่มีคาดหวังจะได้เห็นเทรนด์นี้มากที่สุด ในทางตรงข้าม มีเพียง 1 ใน 5 ของนักเดินทางจากสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ที่คาดว่าการเดินทางโดยไม่ใช้พาสปอร์ตจะกลายเป็นเรื่องปกติในทศวรรษหน้า
เทคโนโลยีได้สร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อวิธีการและสถานที่ที่ผู้คนเดินทางไป เช่นเดียวกับเทคโนโลยีนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยอโกด้า ซึ่งทำให้นักเดินทางสามารถดูราคาและจำนวนห้องพักว่างของโรงแรม และบ้านพักหลายล้านแห่งทั่วโลกได้แบบเรียลไทม์
“ยุคนี้ถือเป็นยุคทองของนักเดินทาง เนื่องจากเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ทุกคนสามารถค้นหา จอง และจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินและที่พักได้ง่ายขึ้น หากย้อนเวลากลับไป เมื่อทศวรรษ 2000 เรามีเมาส์และคอมพิวเตอร์ที่ทำให้การจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักออนไลน์ง่ายขึ้นเพียงไม่กี่คลิก ส่วนในทศวรรษ 2010 เราก็มีสมาร์ทโฟน และแอปพลิเคชันที่เปรียบเสมือนทราเวลเอเย่นต์พกพาอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเจ้าของโทรศัพท์มือถือหลายล้านคน และสำหรับในทศวรรษ 2020 ที่กำลังจะมาถึง เราก็มีเครื่องมืออันทรงพลังอย่าง การเก็บข้อมูล และแมชชีน เลิร์นนิ่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี AI โดยสองสิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เช่น อโกด้า สามารถแนะนำสินค้าและบริการที่มีความเฉพาะเจาะจงกับแต่ละบุคคล (personalized) และเกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้การจองบริการต่าง ๆ สำหรับการเดินทางกลายเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น” คุณทิโมธี ฮิวจ์ส, รองประธานฝ่ายพัฒนาองค์กรของอโกด้า กล่าว “นักเดินทางมีความกระตือรือร้น และคาดหวังที่จะเห็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะยกระดับ และทำให้การเดินทางเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับพวกเขา โดยเฉพาะชาวเอเชีย ปัจจุบันหลายบริษัทในทวีปเอเชียกำลังเป็นผู้นำของโลกในด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้และพัฒนาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ผมหวังว่าจะได้เห็นทวีปเอเชียก้าวขึ้นเป็นผู้นำในเรื่องนี้ในทศวรรษ 2020 โดยเฉพาะในด้านวิดีโอและเทคโนโลยีเสมือนจริง (augmented reality) การปรับปรุงและพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการสำหรับโทรศัพท์มือถือด้วยแชทและเสียง รวมถึงการชำระเงินออนไลน์”
ผู้คนต้องการเดินทางมากขึ้น แต่ก็ยังต้องการตัวเลื
นักเดินทางทั่วโลกมีความต้
เมื่อพูดถึงความรับผิดชอบต่
กลุ่มนักเดินทางอายุ 35-44 ปี และมากกว่า 55 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มที่จะอยากท่องเที่
นักเดินทางชาวเกาหลีและญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะเดินทางท่องเที่
เกียวโตคว้าที่ 1 จุดหมายปลายทางที่ผู้
ทวีปเอเชียขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของจุดหมายปลายทางด้านการท่
นักเดินทางจากประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศไทย ไต้หวัน ประเทศเวียดนาม และประเทศมาเลเซีย ต่างต้องการไปเที่ยวที่อื่
ข้ามไปฝั่งตะวันตก นักเดินทางชาวอเมริกันและชาวอั
เทรนด์การท่องเที่ยวในทศวรรษ 2020 ของประเทศไทย
- คนไทยเกือบครึ่งหนึ่ง (49%) คาดว่าการใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเช็คอินเข้าที่พักได้จะกลายเป็นเรื่องปกติในทศวรรษหน้า ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่คาดหวังกับเทรนด์นี้มากที่สุด
- 39% ของคนไทยคาดว่าจะสามารถใช้แอปพลิเคชันเดียวสำหรับทุกความต้องการในการเดินทางได้
- 32% ของนักเดินทางชาวไทยต้องการทางเลือกในการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเมื่อเดินทาง
- กรุงเทพมหานครติดอันดับ 1 จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคนไทยในทศวรรษหน้า ตามมาด้วยด้วยเกียวโต อันดับ 2 และภูเก็ต อันดับ 3
- 36% ของนักเดินทางชาวไทยต้องการท่องเที่ยวในประเทศตัวเองมากขึ้น ขณะที่ 30% ต้องการไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น