หัวหินยังคงเป้าหมายหลักๆ ของคนที่มองหาสถานพี่พักผ่อนในวันหยุดสุปสัปดาห์ โดยเฉพาะชาวกรุง ที่อยากจะหนีกรุง หนีความยุ่งวุ่นวายออกไปสัมผัสธรรมชาติ ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ต้องเร่งรีบในบรรยากาศผ่อนคลาย ได้เจอบริการดีๆ ได้กินอาหารอร่อย แล้วนอนตีพุงบนเตียงนุ่มในห้องพักสวยๆ

วันนี้เราเดินทางมายังหัวหินอีกครั้ง ในบรรยากาศต้นฝน เพราะทราบมาว่ามีที่พักน้องใหม่ที่น่าสนใจ อายุแค่ 6 เดือน อย่าง “Coral Tree Villa” ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของหัวหินและชะอำ สังเกตง่ายๆ ว่า จากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่หัวหิน เมื่อผ่านค่ายพระรามหกมาแล้ว ด้านซ้ายมือจะมีป้ายของ Coral Tree Villa ตั้งเด่นเป็นสง่า หาได้ไม่ยาก

ด้านหน้าจะเป็นส่วนของร้านอาหาร “ณีมทรีส์” Neem Trees Thai Bistro at Hua Hin ที่ถูกปากถูกลิ้นคนไทย เพราะรังสรรค์เมนูอาหารจากตำรับไทยแท้มาบริการ ในบรรยากาศแบบอินดอร์และเอ้าท์ดอร์อันร่มรื่น จึงได้รับการตอบรับที่ดีทั้งลูกค้าที่เข้าพักในรีสอร์ทและลูกค้าทั่วไป

เมนูเด็ดของร้าน ซึ่งได้รับการชื่นชมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ด้วยความพิถีพิถันในการปรุงตามสูตรที่เรียกได้ว่า เด็ดในแบบฉบับของตัวเอง เริ่มตั้งแต่ ซี่โครงหมูองซอสพริกไทยดำ ข้าวผัดกากหมูปลาทู แกงปูใบชะพลู สปาเก็ตตี้ซอสครีมไข่กุ้ง สปาเก็ตตี้ซอสใบโหระพาแซลมอนรมควัน

มาถึงด้านหน้าของ Coral Tree Villa จะมีรถกอล์ฟคอยบริการส่งถึงที่เช็คอิน สัมผัสแรกที่ได้รับคืออัธยาศัยไมตรีของพนักงานที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความใส่ใจ ก่อนจะนำเราเข้าไปสู่ห้องพัก ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบ Garden Villa ที่อิงสวนและสนามหญ้า Premier Seaview Villa มองเห็นวิวสระน้ำและทะเล Pool Villa และ 2 Bedroom Pool Villa เป็นห้องพักที่มีสระว่ายน้ำในตัว รวมทั้ง Seafront Grand Villa ซึ่งมีความโดดเด่นเป็นส่วนตัว สระว่ายน้ำจะใหญ่กว่าพูลวิลล่า และมองเห็นทะเลแบบชิดขอบ เรียกได้ว่าไพรเวทสุดๆ เหมาะมากกับคู่รักคู่สวีททั้งหลาย

Coral Tree Villa มีห้องพักทั้งหมด 56 ห้อง แบ่งสัดส่วนชัดเจนเพื่อความเป็นส่วนตัว เพราะอยากสร้างบรรยากาศของการพักผ่อนอย่างแท้จริง ที่นี่จึงถูกออกแบบเป็นรีสอร์ทแนวราบ บนพื้นที่ราว 20 ไร่ ชายทะเล ตกแต่งด้วยสไตล์ Western – Industrial เป็นการผสมผสานระหว่าง เหล็กและไม้ ที่มีความลงตัว

ที่ลงตัวยิ่งไปกว่านั้น คือ รีสอร์ทแห่งนี้ ผ่านการออกแบบจากผู้เป็นเจ้าของ “คุณเอนก ฮุนตระกูล” วัย 71 ซึ่งทำงานร่วมกับนักออกแบบวัย 29 ปี เรียกได้ว่าเป็นการผสานกับความเก๋าและเก๋ไก๋เข้ากันได้อย่างร่วมสมัย โดยคุณอเนกให้ความใส่ใจกับรีสอร์ทแห่งนี้มากๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ และเลือกข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งต้นไม้ ซึ่งเป็นความชื่นชอบส่วนตัว ที่นำมาเป็นพื้นฐานของการสร้างรีสอร์ทที่มีความร่มรื่นมากๆ อย่างที่เราได้เห็น ทุกวิลล่าจึงมีการจัดแต่งสวน ที่มองดูแล้วสบายตาสบายใจ

ในส่วนของร้านอาหารของรีสอร์ท ซึ่งเป็นร้านอาหารสไตล์ Home Cooking ชื่อว่า Coral Vine Bar & Restaurant ซึ่งอยู่ติดทะเล และเก๋ไก๋ไม่เบา บรรยากาศชิวๆ ริมสระน้ำขนาดใหญ่ มีให้เลือกหลายมุม โดยเมนูของ Coral Vine จะเน้นไปทางอาหารฝรั่งเป็นหลัก แต่ก็มีอาหารไทยให้บริการด้วย โดยรสชาติของอาหารฝรั่งก็จะเป็นสไตล์ฝรั่งแท้ๆ จึงมีลูกค้าชาวต่างชาติที่ไม่ได้พักที่นี่แวะเวียนเข้ามาชิมกันบ่อยๆ

กล่าวถึงลูกค้าของ Coral Tree Villa ส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทย ที่ต้องการมาพักผ่อนในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวกันจริงๆ แต่ก็ถูกใจชาวต่างชาติอยู่ไม่น้อย ซึ่งบางคนก็มาอยู่กันแบบ Long Stay ยาวถึง 1-2 สัปดาห์กันเลยทีเดียว

กลับมาที่ร้านอาหาร Coral Vine กันต่อ เพราะเป็นที่ที่เรามารับประทานทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น เมนูของ Coral Vine ก็จะไม่เหมือนกับที่ร้านณีมทรีส์ เมนูที่ได้ลิ้มลองวันนี้ ประกอบด้วย ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ จานนี้มาแบบบิ๊กๆ รสชาติดีแบบไม่ต้องปรุง แกงเผ็ดเป็ดย่าง หอมกลมกล่อม ผัดเนื้อน้ำมันหอย นุ่มชุ่มลิ้น ส้มตำทานตะวันอ่อนกุ้งสด ชื่อส้มตำแต่ต้นทานตะวันไม่ชอกช้ำ ยังสดกรอบอร่อย รสชาติไม่จี๊ดจ๊าดมาก

แต่ที่ชอบมาก และน่าจะเป็นจุดแข็งของเขาเลยคือ เมนูอาหารฝรั่ง อย่าง Coral Vine Burger ต้องบอกว่ากินเบอร์เกอร์มาหลายที่ ต้องบรรจุไว้ว่าที่นี่ก็เด็ด เนื้อนุ่มและหอมมาก หรือจะเป็น Lamb Shank เนื้อขาแกะนิว
ซีแลนค์ตุ๋น นุ่มมากถึงมากที่สุด รวมทั้ง สปาเก็ตตี้ครีมซอสไข่ปู ที่ปรุงได้กลมกล่อม และในเย็นวันนี้ ยังมีบาร์บีคิวซีฟู้ดมาให้ชิม ที่บอกว่าเด่นเรื่องอาหารฝรั่ง ต้องพูดใหม่อีกครั้ง เพราะน้ำจิ้มซีฟู้ดเขาเด็ด จนเรียกได้ว่า ร้านซีฟู้ดยังอาย ได้กุ้งได้ปูสดๆ มาจิ้มกิน ฟินกันไปใหญ่

ดูรวมๆ แล้วอยากจะบอกว่า อาหารของ Coral Tree มีความโดดเด่นมากๆ เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งของความสุขในการพักผ่อน และเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ สำหรับการเลือกที่พัก เพราะเดิมที เราอาจจะชอบที่พักของโรมแรมนั้นโรงแรมนี้ แต่ไม่ชอบอาหาร และมักจะออกไปรับประทานกันข้างนอก แต่ที่นี่ มีให้เลือกแบบครบรส

ยังเล่าไม่จบ เพราะฝั่งของ ณีมทรีส์” มีร้านเบเกอรี่โฮมเมดเล็กๆ แต่อัดแน่นด้วยความอร่อยให้บริการ สายกินไม่ควรพลาดสำหรับการมาเขาพักที่ Coral Tree Villa แต่ก็อย่ากังวลไป กินแล้วก็ออกไปเดินออกเล่นเผาผลาญแคลลอรี่กันได้ที่ชายหาด ซึ่งในช่วงเช้าถึงเย็น น้ำจะลดจนเห็นชายหาดเวิ้งว้างกว้างไกล น้ำทะเลใสๆ ยังคงเดิม กลางวันอาจจะร้อนมากเพราะแดดจ้า จำเป็นต้องมีร่มหรือหมวกติดตัวไปด้วย ช่วงค่ำน้ำจะขึ้นจนชิดขอบกำแพงกั้นน้ำที่ทางโรงแรมทำไว้ แต่ก็เลือกนั่งชิลล์ๆ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

ถ้าไม่ได้เลือกห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ก็มาลงเล่นในสระน้ำส่วนกลาง ซึ่งมีขนาดใหญ่และสวยงามมาก ตอนเย็นๆ และยามเช้า คือช่วงที่เหมาะกับชาวไทยที่ไม่ชอบแดดอย่างเราๆ ส่วนใครที่อยากออกกำลังกายเพิ่มก็มีฟิตเนสให้บริการ

ค่ำคืนที่ Coral Tree Villa เงียบสงบสมดังสโลแกนที่ว่า Relax in Privacy ข้าวของเครื่องใช้ในห้องก็ดูดี สบู่อาบน้ำออกแนวสมุนไพรซึ่งหอมมาก ในห้องมีชากาแฟให้บริการ มีรองเท้าแตะที่ใส่เดินออกนอกห้องได้ ไซส์ก็จะประมาณผู้ชายและผู้หญิงทั่วไป ที่นอนนุ่มไม่ปวดหลัง เตียงยังใหม่ ห้องยังใหม่ ไวไฟแรง แอร์เย็นฉ่ำ น้ำร้อนน้ำเย็นทำงานดี ตื่นมาเจอกับอาหารเช้าที่จัดเต็ม สด อร่อย ไม่ผิดหวังเลย

ถือเป็นช่วงเวลาของการพักผ่อนที่เหมาะกับคนที่อยากได้การพักผ่อนจริงๆ และเหมาะมากกับคนที่อยากมานอนกลิ้งๆ กินนอน ดื่ม เล่น ทำอะไรทุกอย่างโดยไม่ต้องออกไปไหน ที่นี่ยังมีห้องจัดเลี้ยงให้บริการทั้งงานประชุมกรุ๊ปเล็กๆ 30-60 คน หรือจะเป็นงานเลี้ยงแต่งงานเล็กๆ ก็ทำได้

ช่วงนี้ทางรีสอร์ทมีโปรโมชั่นหน้าฝน No Rain No Gain! ห้องพักราคาพิเศษ เริ่มต้นตั้งแต่ 3,000 บาทต่อคืนสำหรับห้อง Garden Villa ในช่วงวันธรรมดา ไล่ขึ้นไปตามเงื่อนไขของวันธรรมดาและวันเสาร์ ไปจนถึง ห้อง Seafront Grand Villa ที่มีราคา 12,000 บาทต่อคืนในวันธรรมดา และ 13,900 ต่อคืนในวันเสาร์ ส่วนราคาอื่นๆ ก็โทรสอบถามได้ที่ 032-527-790 ทุกราคารวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน

ที่ไม่เหมือนใครและอยากบอกว่าถูกใจสายกินอย่างเรา คือ ฟรีเครดิตอาหารตั้งแต่ 500 บาทต่อคืนต่อห้อง ไว้ใช้สำหรับเป็นค่าอาหาร ซึ่งดีงามมาก และเก๋กว่านั้นคือ ถ้าวันที่เข้าเช็คอินแล้วฝนตก รับเครดิตอาหารไปอีก 200 บาท ถือว่าแฟร์มาก และไม่ค่อยเจอที่ไหน โปรโมชั่นหน้าฝน ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2561

ดูรวมๆ แล้วเป็นที่พักที่พร้อมสำหรับวันพักผ่อน แต่อาจจะไม่เหมาะกับสายโป๊งชึ่ง เพราะไม่มีแสงเสียงมารบกวนใจ มีแต่ความชิลล์ๆ สบายๆ นอนฟิน กินเพลิน จนถึงตอนท้ายก็ยังอยากจะชื่นชมพนักงานที่มีอัธยาศัยไมตรีมีใจบริการดีมาก ถือเป็นหัวใจหลักของงานบริการทั้งหลายเลยก็ว่าได้

มีโอกาสก็อยากให้ไปเข้าพักที่ Coral Tree Villa นับเป็นตัวเลือกที่ดี แม้จะไม่หรูหรา โอ่อ่า แต่ก็สบายใจ สบายตา และสะดวกสบายไม่แพ้โรงแรมใหญ่ แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ สนใจก็สามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/coraltreevilla/